บทความ

พอถึงบางอ้อ…ก็เลยอยากบอกต่อ

Posted by อ้อม&ปาล์มมี่ on June 20, 2010 at 11:30pm จริงๆแล้วเรื่องราวที่อยากจะบอกต่อ ก็เป็นเนื้อหาซ้ำเดิมที่ผู้ใหญ่บิ๊กได้บอกกับเราทุกคน(ที่อ่านหนังสือเด็กสองภาษาฯ)แล้ว หรือแม้กระทั่งพี่ๆน้องๆในหมู่บ้านก็เคยบอกเคยคุยกันไปแล้ว แต่อ้อมอยากจะเล่าอยากจะบอกในมุมของอ้อม จากประสบการณ์การสร้างเด็กสองภาษาของตัวเอง(แม่ไม่เก่งอังกฤษ)ค่ะ เลือกระบบให้เหมาะกับตัวเอง.. ของอ้อมเลือก OPOL ค่ะ โอ่โฮ้!โคตะระ เครียด เครียด เลยค่ะ ทั้งเหนื่อยทั้งท้อ ดีนะที่ไม่ถอยไปซะก่อน ส่วนหนึ่งก็ได้กำลังใจจากหมู่บ้านแห่งนี้แหล่ะค่ะ ถ้าย้อนเวลาได้อ้อมคงเลือกระบบ OTOL แล้วค่อยๆเพิ่มความถี่ความเข้มข้นไปเรื่อยๆ คิดว่ามันน่าจะไม่เครียดเหมือนที่เจอมา เพิ่งคิดได้ว่า “อะไรก็ตามที่คนอื่นเค้าบอกว่าดี มันจะดีที่สุดถ้ามันเหมาะกับเรา และเราเหมาะกับมัน” ใจร้อน.. ตอนเริ่มใหม่ๆ อ้อมดูคลิปของพี่ๆน้องๆ เห็นเจ้าตัวเล็ก(ของแต่ละบ้าน)พูดอังกฤษได้ โอ๊ย! อยากให้ลูกเราพูดได้เร็วๆบ้างจัง ดูคลิปของบ้านนี้ อุ๊ย..เค้าใช่เวลาแค่นี้เอง บ้านโน้น..เค้าสอนอย่างนี้เหรอ อย่างนั้นเหรอ ไม่เห็นยาก(ลืมไปเลยว่าอังกฤษตัวเองไม่กระดิกเลย) แล้วก็สรุปเองเลยว่า ฉันสร้างเด็กสองภาษาภายในระยะเวลา 5-6 เดือน ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เพิ่งคิดได้ว่า การเลียน(แบบ)ภาษา หรือเรียนอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับทักษะ มันต้องใช้เวลาและการฝึกฝน อย่างตอนเป็นเด็กๆ(ตอนนี้เป็นสาว)ที่เราเรียนพิมพ์ดีด ต้องเรียนวันละ […]

การเดินทางบนเส้นทางนี้ ของแม่กะมี่ (ปาล์มมี่) 2

Posted by อ้อม&ปาล์มมี่ on March 16, 2010 at 3:30am 4 อ๋อ…มันเป็นเพราะความเชื่อนี่เอง เคยถามตัวเองว่าทำไมเราถึงเลือกระบบ OPOL ทั้งๆที่เราก็เก่งอังกฤษซะเหลือเกิ๊น เวลาจะพูดทีน้ำไหนไฟดับก็แล้ว ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะพูดยังงัย คิดไปคิดมา อ๋อ…มันเป็นเพราะความเชื่อนี่เอง เพราะเราเชื่อในแนวคิดการสร้างเด็กสองภาษาของท่านผู้ใหญ่บิ๊ก เชื่อคำแนะนำที่ว่า “ถ้าลูกคุณเพิ่งหัดพูด และพ่อแม่คนใดคนหนึ่งเลี้ยงลูกเต็มเวลา ผมแนะนำเลยครับว่า OPOL หนึ่งคนหนึ่งภาษาดีที่สุด” เมื่อเรามีความเชื่อแล้วเราก็สามารถทำตามความเชื่อนั่นได้อย่างสนิทใจและเต็มกำลัง แม้มันจะยากเย็นแสนเข็นก็ตาม 5 ถ้าเราไม่ยอมแพ้ เราก็จะไม่แพ้ 16 กันยายน 2552 เด็ก 2 ภาษา Eng – Thai ตอนนี้แม่กำลังพยายามทำให้ ปาล์มมี่เป็นเด็ก 2 ภาษา แต่มันค่อนข้างยาก เพราะปาล์มมี่คุ้นเคยกับภาษาไทยมาก่อนและนู๋ก็เริ่มพูดภาษาไทยได้มากขึ้นแล้ว เพราะฉะนั้นแม่ต้องพยายามให้มากเป็น 2 เท่า ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน แม่เริ่มพูดภาษาอังกฤษกับนู๋ 100% แม่รู้ว่ามันยากสำหรับนู๋ แล้วมันก็ยากสำหรับแม่ด้วย แต่”เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ” ยอมรับว่าตอนนี้แม่รู้สึกท้อนะ […]

การเดินทางบนเส้นทางนี้ ของแม่กะมี่ (ปาล์มมี่)

Posted by อ้อม&ปาล์มมี่ on March 15, 2010 at 1:00am ถือว่ายังพอมีบุญเก่าอยู่บ้าง ครอบครัวเราชอบไปตากแอร์ที่ร้านหนังสือ(ในห้างฯ)ค่ะ ได้อ่านหนังสือฟรีแถมเย็นสบาย(ขอบคุณร้านหนังสือทุกร้านที่เราไปใช้บริการด้วยนะคะ) และปาล์มมี่ก็ยังได้เจอเพื่อนใหม่ๆที่นั่นอีกด้วย ตอนนั้นประมาณต้นเดือน ก.ค. 52 เหมือนอย่างเคยๆค่ะ พาลูกไปร้านหนังสือ ตาเหลือบไปเห็นหนังสือสีส้มเด่นสะดุดตา หน้าปกเขียนว่า เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ เดินตรงเข้าไปหยิบขึ้นมา แล้วอ่านทุกตัวอักษรบนหน้าปกหนังสือ แล้วก็วางกลับคืนที่เดิม ในใจคิด “มันก็คงเหมือนกับหนังสือสอนภาอังกฤษทั่วๆไปแหละว้า” ครั้งที่ 1 ผ่านไป ครั้งที่ 2 ก็ที่ร้านหนังสืออีก เดินผ่านเห็นอีกแล้วหนังสือเล่มนั้น เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ แต่ครั้งนี้มองแค่หาตาเท่านั้น แล้วก็เดินผ่านไป ครั้งที่ 3 ก็ที่ร้านหนังสืออีกนั่นแหละ เห็นอีกแล้ว หนังสือเล่มนี้ทำไมมันเตะตาจังฟะ ถือว่ายังพอมีบุญเก่าอยู่บ้าง อะไรก็ไม่รู้ดลจิตดลใจให้เราเดินเข้าไปหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านอีกครั้ง อ่านหน้าปก อุ๊ย! พิมพ์ครั้งที่ 3 “คงมีอะไรดีมั้ง” คิดในใจ แล้วก็พลิกอ่านด้านใน มือนึงถือหนังสือ มือนึงจับมือลิง เอ่อ! จับมือลูก (อยู่กับลูกสองคน […]

กลับตัวก็ไม่ได้ จะเดินต่อไปก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึง

Posted by อ้อม&ปาล์มมี่ on December 28, 2009 at 9:46am เหนื่อยมากๆเลยค่ะ (ขออนุญาตบ่น คิดว่าคนในหมู่บ้านคงเข้าใจ) ช่วงนี้เข้ามาที่หมู่บ้านทีไรก็จะไปอยู่แถวๆห้องEnglish Club ตามดูกระทู้เก่าๆ เก็บข้อมูล จด จำ และทำแบบฝึกหัด (ไม่เข้าใจเล๊ยทำไมตัวเองถึงเลือกระบบOPOL ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษ) เสียดายม๊าก…(และเสียใจ) ที่ไม่ได้ไปเวิร์กช็อปคราวที่แล้ว ถ้าไม่งั้นตอนนี้ก็คงไม่ต้องมานั่งบ่นแบบนี้ช่วงนี้ปาล์มมี่เริ่มอยากจะสื่อสารกับแม่เป็นประโยคมากขึ้น เริ่มถาม Who? What? ถ้าน้องถาม Who? อ้อมก็จะพูด Who is she/he? น้องก็จะรีบพูดตาม แถมแต่งประโยคเอง อย่างเช่น Palmy sit high. Mommy sit low. (น้องนั่งบนโซฟาค่ะ แม่นั่งที่พพื้น) แล้วประโยคเด็ดติดปากตอนนี้ก็ I don’t yo(know). ทั้งๆที่รู้ ก็ I don’t yo. นี่แหล่ะค่ะเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้อมกลับตัวไม่ได้แล้วในหนังสือเด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้ คุณพงษ์ระพี เขียนไว้เกี่ยวกับผลงานวิจัยว่า เขาบอกว่าการเรียนรู้ภาษาที่สองตั้งแต่เยาว์วัย […]

แค่เริ่ม..ก็อยากเลิกแล้ว

Posted by อ้อม&ปาล์มมี่ on November 3, 2009 at 10:57pm เริ่มสองภาษาวันที่ 5 ก.ย.52 (ปาล์มมี่อายุ 1 ขวบ 9 เดือน ยังพูดไม่ค่อยได้ แต่ฟังรู้เรื่องหมด) ช่วงแรกที่ใช้สองภาษากับปาล์มมี่ แม่(ที่แสนสวย..เฮ้ย!ไม่ใช้)ที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงอย่างอ้อมเนี่ย อยากจะเลิกพูดภาษาอังกฤษกับน้องทุกวันเลยค่ะ ความที่เราพูดภาษาไทยกับลูกมาแล้วระยะหนึ่ง เพราะฉะนั้นศัพท์ภาษาไทยจึงมีอยู่ในหัวลูกพอสมควรแล้ว พอเราเปลี่ยนมาพูดภาษาอังกฤษช่วงแรกๆ ลูกไม่อยากจะเล่นกับอ้อมเลย อยากจะพูดอะไรกับลูกก็นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไร อึดอัดม๊าก… แถมคนรอบข้างหลายๆคน ยังพูดทักอยู่บ่อยๆอีกว่าน้องจะฟังรู้เรื่องเหรอ เดี๋ยวน้องจะงงนะ (ให้กำลังใจกันน่าดูเลย) ท้อมาก…ก็เลยกลับไปอ่านหนังสือ “เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้” อีก ก็เลยรู้ว่าตัวเองปฏิบัติผิดวิธี โดยที่อ้อมคุยภาษาอังกฤษกับลูกเป็นประโยคเลย และหวังว่าลูกจะเข้าใจ แต่พอได้อ่านหนังสืออีกรอบก็ทำให้นึกขึ้นได้ว่าตอนที่พูดภาษาไทยกับลูกอ้อมจะบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกเห็นอยู่ตรงหน้าว่ามันคืออะไร เพราะฉะนั้นก็ต้องทำเหมือนกันในภาษาอังกฤษไม่น่าเชื่อระยะเวลาแค่ 2 เดือน ปาล์มมี่รู้ศัพท์หลายคำ ฟังประโยคคำสั่ง-ประโยคคำถามสั้นๆได้เข้าใจ และสามารถโต้ตอบเป็นคำๆได้บ้างแล้ว และดูเหมือนว่าตอนนี้น้องจะอยากพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น สังเกตจากตอนที่อ้อมพูดกับลูก ลูกก็จะพยายามพูดตามทีละคำ และเรื่องที่น่ายินดีอีกอย่างก็คือ ภาษาอังกฤษของอ้อมก็เริ่มดีขึ้น อาศัยตอนลูกหลับอ่านหนังสือเพิ่ม กลับมานั่งเรียนใหม่อีกครั้งก็สนุกดีเหมือนกัน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวที่เพิ่งจะเริ่มนะคะ อย่าเพิ่งเลิกไปซะก่อน สู้ สู้ นะคะ

ปักหมุด…เริ่ม 2 ภาษากับติณห์-แตม

Posted by Tao’s mamy รักในหลวง on March 25, 2015 at 6:21pm รัตน์ตั้งใจเขียนบล็อคนี้ไว้เตือนตัวเองคือตอนนี้ พี่เต๋ามีน้องแฝดแล้ว ชื่อน้องติณห์-แตม และตอนนี้ติณห์แตมก็จะครบ 1 ขวบแล้วล่ะ …. 1 ขวบ คือดีเดย์ที่รัตน์กำหนดเอาเอง 5555 เพราะตอนเริ่ม 2 ภาษากับพี่เต๋า คือเริ่มตอน 8 เดือนแต่เป็นการเริ่มแบบเตรียมตัวเราเอง เพราะตอนนั้นอ่อนด้อยภาษาอังกฤษมาก จึงไม่ได้เริ่มแบบทันทีทันใด ประมาณว่าขอเวลาทำใจแป๊บ 5555 ก็ค่อยๆปรับไปเรื่อยๆ ประมาณ 3-4 เดือน จนพี่เต๋า 1 ขวบ นั่นล่ะ จึงเป็นการพูดอังกฤษกับลูกแบบ 100% เต็ม ไม่มีหลุดแหลงใต้ หรือพูดไทยมาปนเลย 5555 ตอนนี้ พี่เต๋าอายุ 6 ขวบกว่า ผลลัพธ์ที่ได้เกินกว่าความคาดหวังเยอะมากๆๆ คุ้มค่าสุดๆๆ ที่เคยเหนื่อย ที่เคยท้อ มลายหายไปหมดตั้งแต่วันที่เค้าพูดอังกฤษคำแรกกับเรา … และมีอีกเรื่องที่สำคัญ […]

บันทึกพัฒนาการของ แม่สองภาษา vs ลูกสองภาษา

Posted by Tao’s mamy รักในหลวง on April 7, 2010 at 6:15pm เริ่มสอนตามแนวคิดเด็กสองภาษาตอนเด็กอายุ : 8 เดือน – ปัจจุบัน 1 ขวบ 4 เดือน ระบบที่เลือกใช้ : OPOL แม่พูดอังกฤษ พ่อพูดอังกฤษบางเวลา อาชีพแม่ : ค้าขาย การศึกษาแม่ : ป.ตรีระดับภาษาอังกฤษของแม่ : ม.6 , กลัวฝรั่ง, ฟังไม่ออก พูดไม่ได้ เพราะแม่ไม่เคยพูดภาษาอังกฤษในชีวิตจริงเลย สมัยทำงานเคยโดนล้อไม่เลิกเมื่อพูดอังกฤษ จึงติดต่อลูกค้าทางอีเมลอย่างเดียวเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง จากนั้นเมื่อมาค้าขายก็ใช้เพียงวลีสั้นๆ เช่น yes, no, sorry, thank you. อุปสรรคและการแก้ไข แม่: ต้องรื้อฟื้นความรู้ ภาษาอังกฤษใหม่หมด ขาดความมั่นใจ การแก้ไข : […]

เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน

Posted by Tao’s mamy รักในหลวง on August 4, 2010 at 11:00am ความคิดของคนไทยทั่วๆไป (รวมถึงตัวเองด้วย)ที่วนเวียนอยู่กับความคิดที่ว่า ต้องเข้าเรียนตามสถาบันสอนภาษา ต้องไปเรียนภาษาหรือเรียนต่อที่เมืองนอก ถึงจะพูดอังกฤษได้ ….เมื่อไรเราจะเปลี่ยนความคิดเช่นนี้ได้สักที…. เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าน้องสาวคนเล็กเพิ่งเรียนจบป.ตรี จากประเทศจีน มาหมาดๆ แต่เธอไม่เก่งภาษาอังกฤษถึงขั้นพูดไม่ออก เขียนไม่ถูกประมาณนั้น ขณะที่เธอยังไม่รู้เลยว่าชีวิตของเธอจะเิิดินไปทางไหนแต่อันดับแรกที่เธอตัดสินใจคือ เธอต้องไปเรียนภาษาอังกฤษก่อน เพราะลำพังภาษาจีนคงไม่ช่วยให้หางานทำได้ง่ายๆแล้วการที่จะเก่งอังกฤษได้นั้น วิธีเดียวที่จะช่วยได้คือ การเข้าไปเรียนที่สถาบันสอนภาษา หรือการไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศเท่านั้น ในฐานะที่เป็นพี่สาว คิดว่าคงเปลี่ยนความคิดน้องตัวเองได้ง่ายๆ แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเธอคิดยังงี้….เพราะน้องเรียนต่อที่จีน ก็เลยพูดจีนได้เพราะงั้น ถ้าจะพูดอังกฤษได้ ก็ต้องไปเรียนเมืองนอกสิ….ป้าดดด… หนึ่งดอก ก็เลยยกตัวอย่างตัวเอง ที่พัฒนาภาษาอังกฤษได้ จากแนวคิดเด็กสองภาษาเริ่มต้นด้วยคำง่ายๆ แบบที่พูดกับเด็กๆ ฝึกฝนด้วยตัวเอง พูดอยู่คนเดียว พูดไปพูดมา ทำไปทำมา….…..ผ่านไป 1 ปี ตอนนี้ลูกยังพูดได้เป็นคำๆ (1 ขวบ 8 เดือน) แต่ตัวแม่กลับพูดได้เยอะขึ้น คล่องขึ้นบางประโยคสามัญ ก็ไม่ต้องผ่านกระบวนการแปลจากไทยซ้ำ ….….. ผลลัพธ์ที่ได้ แม้สำเนียงไม่ฝรั่งจ๊ะจ๋า มีกระอึ๊กกระอั๊ก […]

just talk (in safety zone) -_-”

Added by Tao’s mamy รักในหลวง on March 25, 2011 at 10:10pm Little monkey Tao from Rangsipol on Vimeo. ถูกใจคำนี้ของผู้ใหญ่บิ๊กมากๆ (จากหนังสือเล่ม3)ตอนนี้พื้นที่ปลอดภัย(ของแม่) เริ่มไม่ค่อยมีแล้วค่ะ แหะแหะ แค่คุยกันง่ายๆ ก็เหนื่อยจัง พยายามระวังให้มากขึ้น พูดช้า ชัด ดีกว่า แต่มันก็มีเผลอบ้าง(เป็นประจำ)ได้หนังสือเล่ม 3 มา ได้ทบทวนพฤติกรรมกันอีกครั้ง ต้องปรับ ต้องแก้ กันอีกเยอะ …ไม่ต้องรอให้อาจารย์ตรวจการบ้าน ลูกศิษย์ก็รู้ตัวดีค่ะ … เต๋าเอ๊ย…ตกลงว่า แม่อู้ไม่ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย T_T ** เวลาอยากดูวีดีโอ ดูคลิป เค้าติดคำว่า see ค่ะ (…wanna see Tao คือดูคลิปเต๋า) อันนี้ความผิดแม่เต็มๆ ตามแก้มาหลายเดือนแล้วค่ะ … -_-”

2 ขวบ 1 เดือน….ฉันรู้ ว่าลูกฉันต้องทำได้

Posted by Tao’s mamy รักในหลวง on January 31, 2011 at 4:23pm ตั้งแต่เจ้าเต๋า 2 ขวบ 1 เดือน เริ่มมีคนเข้ามาทักอยู่เรื่อยๆ ประโยคแรกคือ “น้องพูดไทยได้มั้ยคะ” โห…พอได้ยิน แม่รัตน์เป็นปลื้มอยู่ในใจ แต่ทำดีใจออกนอกหน้าไม่ได้ เดี๋ยวเค้ารู้ว่าเราอยากให้ทักจัง 555+ จากนั้น ก็มีคนมาทักอยู่เรื่อยๆ ว่า พ่อเป็นฝรั่งเหรอ… ขอโทษนะ พูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษเหรอ …. แม่รัตน์ก็ยิ้ม แล้วก็อธิบายไปว่าเราสอนตามแนวคิดเด็กสองภาษาไป เค้าก็ต่างแปลกใจ พอเห็นเจ้าเต๋าเปลี่ยนโหมดไทย-อังกฤษได้อัตโนมัติ ก็ทึ่งกันใหญ่ ^^ อิอิ ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เริ่มทำระบบ opol อย่างจริงจังตอนเจ้าเต๋าเกือบ 1 ขวบ … ไม่มีใครเคยเข้ามาทักเลย ไม่มีใครสนใจว่างั้นเถอะ แม่รัตน์ก็งงจัง ทำไมไม่เห็นมีใครทักหรือถามไถ่เราเลย ว่าพูดอังกฤษกับลูกเหรอ… แต่ก็ดี ที่ไม่สนใจแต่ไม่ต่อต้าน เพราะขี้เกียจเถียง ฮ่าฮ่า………. แต่พอเจ้าเต๋าเริ่มสำแดงเดช ตอนอายุครบ 2 […]

1 21 22 23 24 25 40