ผมเองก็อยากให้ผู้บริหารโรงเรียนลงมาศึกษาแนวคิดนี้อย่างจริงจัง สี่ห้าปีที่ผ่านมาแนวความคิดเด็กสองภาษา กระจายสู่สังคมไปเป็นวงกว้าง จนคำว่าเด็กสองภาษากลายเป็นคำฮิตติดปากในการสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กไป แต่ที่ผ่านมามีครูไม่กี่คนเท่านั้นที่มาศึกษาแนวคิด เอาหนังสือไปอ่านและมาเข้าเวิร์กช็อป เพื่อเอาสิ่งนี้ไปปรับใช้ในการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียน
ดังนั้นโรงเรียนเกือบทั้งหมดก็ยังคงสอนแบบเดิมๆที่เคยผ่านมา คำถามแบบนี้ก็มักจะผุดขึ้นมาในการบรรยายเวิร์กช็อปแต่ละครั้ง และผมก็ต้องบอกพ่อแม่ทุกคนว่า เราคงจะเปลี่ยนวิธีคิดของโรงเรียนได้ลำบาก ไม่รู้ต้องรอไปนานแค่ไหน ดังนั้นพ่อแม่จำเป็นต้องดูแลและฝึกลูกด้วยตัวเราเอง
อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังมีความหวังอยู่ และผมเชื่อว่าความหวังนี้จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีกลุ่มพ่อแม่จำนวนหนึ่งที่รวมกันเรียกร้องให้โรงเรียนปรับเปลี่ยนวิธีสอน เราต้องรวมพลังกันครับ
ส่วนตัวผมเองนั้นมีโอกาสได้ไปเสนอแนวคิดเด็กสองภาษาให้กับรัฐมนตรีช่วย (สมัยนั้น) ท่านสนใจมาก แต่ท้ายสุดเรื่องก็ไม่ได้เดินต่อ และก็เปลี่ยนรัฐมนตรี เปลี่ยนไปเป็นเรื่องอื่น ดังนั้น ผมคิดว่าอย่าไปฝากความหวังอะไรกับระบบโรงเรียนมากมาย ให้เริ่มต้นจากตัวเราดีที่สุดครับ