น้องชิชิ


ครอบครัว: วาทีกานท์
สัมภาษณ์: คุณเม่ย ธนัญญา วาทีกานท์ (แม่)
เด็ก: น้องอชิ (3 ขวบ)
อาศัยอยู่จังหวัด: สงขลา

ก่อนหน้านี้สอนภาษาอังกฤษแบบใด
สอนเองแบบคำแปลคำ

เริ่มฝึกตามแนวคิดเด็กสองภาษา ตอนเด็กอายุเท่าไร แล้วทำไมถึงเปลี่ยนมาสอนตามแนวคิดเด็กสองภาษา
เริ่มฝึกตามแนวคิดสองภาษา ตอนน้องอชิอายุ 1 ขวบ 3 เดือน ที่เปลี่ยนมาสอนตามแนวคิดเด็กสองภาษาเพราะรู้สึกทึ่งในแนวคิดของคุณบิ๊กที่สามารถสอนให้น้องเพ่ยเพ่ย พูดภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ระบบที่เลือกใช้ แล้วทำไมถึงเลือกใช้ระบบนี้
ระบบที่เลือกใช้ คือ ระบบหนึ่งคนหนึ่งภาษา โดยแม่รับหน้าที่พูดภาษาอังกฤษ ส่วนพ่อก็พูดไทย สาเหตุที่เลือกระบบนี้ เพราะคิดว่า น่าจะเห็นผลได้เร็ว สอนช่วงที่น้องอชิกำลังหัดพูด เป็นช่วงเวลาที่เหมาะมากๆ

เริ่มต้นอย่างไร แล้วเจออุปสรรคอะไรบ้าง แก้ปัญหาอย่างไร
ช่วงที่เริ่มสอน ก็เริ่มจากคำศัพท์ง่ายๆ ทั่วไปก่อน อย่าง หมา แมว ปลา ก็สอนไปแบบไม่แปล อุปสรรคที่เจอที่เป็นประเด็นหลักเลย คือ เราไม่รู้คำศัพท์ พูดไม่เก่ง แก้ปัญหาช่วงแรกโดยการพูดภาษาไทยช่วยสำหรับประโยคที่ยังพูดไม่ได้ ซึ่งเยอะมาก ส่วนใหญ่จะพูดไม่ได้ และเข้าเว็บเด็กสองภาษา ห้องภาษาอังกฤษ เข้าไปเก็บความรู้จากกระทู้ที่คุณพ่อ คุณแม่หลายคนเข้าไปตั้งคำถาม และช่วยกันตอบ

ระยะเวลาสอนจนเด็กเริ่มพูดโต้ตอบกลับเป็นภาษาที่สองอย่างเป็นธรรมชาติ
ประมาณ 7 เดือน

ระดับภาษาอังกฤษของพ่อแม่ตอนเริ่มสอนเป็นอย่างไร มีความมั่นใจแค่ไหนในการสอนลูก
ไม่ค่อยดี และมีความมั่นใจไม่มาก แต่คิดว่าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้เหมือนกัน

เสี้ยวเวลาที่ลูกโต้ตอบกลับมาเป็นภาษาที่สองได้รู้สึกอย่างไร
ดีใจมาก ยิ่งเป็นแรงผลักให้เราต้องก้าวต่อ พยายามต่อไป ขยันมากขึ้น

พัฒนาการในแต่ละช่วง
ตอนที่เริ่มสอน ตอนนั้นน้องอชิยังพูดภาษาไทยได้แค่สองสามคำ เราก็เปลี่ยนมาสอนภาษาอังกฤษ ทำให้ในช่วงเวลาที่น้องอชิเริ่มพูดได้มากขึ้น คำส่วนใหญ่จึงเป็นคำภาษาอังกฤษ

ตอนประมาณ 1 ขวบ 4 เดือน หลังจากที่เริ่มสอนไปได้ประมาณ เดือนเศษน้องอชิสามารถเข้าใจสิ่งที่แม่สื่อสารเป็นภาษาอังกฤษด้วยได้ ทำตามคำสั่งได้

1 ขวบ 5 เดือน ยังพูดได้แค่หนึ่งพยางค์ (พยางค์สุดท้ายของคำ) ชี้บอกรูปทรง และสีได้

1 ขวบ 8 เดือน คำศัพท์ที่พูดได้ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ ท่อง a-z ได้ ท่องแบบโฟนิกส์ได้เกือบครบ 26 ตัว นับ one to ten ได้ บอกสีได้ ถูกต้อง12 สี ตอบคำถามได้ถูกต้องเช่น where is an airplane? Sky.

1 ขวบ 9 เดือน สามารถโต้ตอบบทสนทนาสั้นๆ ได้ เข้าใจคำถาม ตอบ yes no ได้

1 ขวบ 10 เดือน เริ่มสอนให้อ่าน (จำ)คำศัพท์โดยใช้แฟลชการ์ด เน้นหลักการสอนแบบโฟนิกส์ ซึ่งน้องอชิให้ความร่วมมือและสนใจที่จะเรียนรู้ได้ดี

1 ขวบ 11 เดือน เริ่มพูดได้เป็นประโยคสั้นๆ

2 ขวบ 1 เดือน สามารถโต้ตอบบทสนทนาได้ดีขึ้น และเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในช่วงนี้ แม่ยังคงสอนให้อ่านคำศัพท์อย่างต่อเนื่อง เพราะคิดว่า น้องอชิ สนใจที่จะเรียนรู้ และคิดว่า การอ่านได้จะเป็นพื้นฐานที่ดีต่อไป แต่ไม่ได้ยัดเยียด เพราะจะพยายามประยุกต์วิธีการสอนอยู่ตลอด ทำให้น้องอชิ รู้จักคำศัพท์มากขึ้น พูดได้ และอ่านออกได้ในเวลาต่อๆ มา โดยจะใช้หลักการสะกดแบบโฟนิกส์

2 ขวบ 5 เดือน สามารถอ่านนิทานภาษาอังกฤษ เรื่องสั้นๆ ไม่ซับซ้อนได้ การออกเสียงชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเสียงท้าย (final sound) และพูดได้ดีขึ้นตามลำดับ

คิดอย่างไรกับการสอน A Ant มด ในโรงเรียน แล้วอยากฝากอะไรถึงโรงเรียนบ้าง
หลังจากที่ได้สอนภาษาอังกฤษ โดยใช้หลักการเรียนรู้แบบธรรมชาติ สอนแบบไม่แปล ตามแนวคิดเด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้ทำให้รู้ว่า การสอนแบบเดิมๆ (แบบแปล) ไม่ได้ทำให้เด็กพูดได้จริง การท่องจำ ท่องๆไป สักวันก็ลืม จึงอยากให้โรงเรียนลองนำเอาหลักการสอนตามแนวคิดเด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้นี้ไปใช้สอนในระบบการศึกษา เพื่อให้เด็กๆ สามารถพูดและสื่อสารภาษาอังกฤษได้จริงแบบเป็นธรรมชาติ

คนรอบข้างมองอย่างไร เมื่อเห็นเราพูดภาษาที่สองกับลูก แล้วเราทำอย่างไร
ถ้าเป็นตอนเริ่มสอนแรกๆ เลย เขาจะมองเราแปลกๆ เพราะตอนนั้นน้องอชิยังพูดไม่ค่อยได้ คนรอบข้างจะไม่ค่อยเชื่อว่าจะทำได้ และตัวเราเองก็ไม่มั่นใจในการพูดของตัวเอง ทำให้เราหลีกเลี่ยงการพูดต่อหน้าคนอื่น แต่พอน้องอชิเริ่มมีพัฒนาการการพูดที่ดีขึ้น เริ่มโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษกับแม่ได้ ทำให้เรามั่นใจที่จะพูดมากขึ้น ไม่กลัวที่จะพูดกับลูกต่อหน้าคนอื่น คนรอบข้างที่เห็นในตอนนี้ ก็ล้วนแต่ชื่นชม

คำแนะนำและความคิดเห็นอื่นๆให้กับพ่อแม่ท่านอื่น
สำหรับพ่อแม่ที่กำลังคิดจะสอนลูกให้พูดสองภาษา หรือกำลังสอนอยู่ ขอให้มีกำลังใจ อย่าท้อแท้ เพราะการสอนเด็กให้พูดสองภาษาตามแนวคิดของเด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้ สามารถทำได้จริง 100 % อุปสรรคต่างๆที่เข้ามา อย่าเอามาเป็นตัวฉุดเราให้ถอยหลัง แต่ขอให้เป็นพลังที่จะทำให้เราก้าวต่อไป ขอให้พ่อแม่ทุกท่านประสบความสำเร็จในการสร้างเด็กสองภาษาด้วยตัวของท่านเองนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

วิเคราะห์โดยผู้ใหญ่บิ๊ก
คุณเม่ยเริ่มสอนภาษาอังกฤษกับลูกแบบสอนคำแปลคำ ตามที่เคยเรียนมา แต่คุณเม่ยยังเปิดรับแนวความคิดใหม่ๆในการสอนเสมอ โดยลงมือศึกษาแล้วเชื่อมั่นในแนวทางการสอนแบบเด็กสองภาษา ซึ่งในระยะเวลาไม่นานนักคุณเม่ยก็ค้นพบว่าการสอนแบบแปลแทนที่จะให้เด็กเก่งภาษาขึ้น กลับเป็นตัวขัดขวางการพูดสองภาษาของเด็ก

คุณเม่ยเน้นสอนแบบค่อยเป็นค่อยไป เน้นพื้นฐานการออกเสียงให้เคลียร์ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญ ที่ผมเน้นย้ำว่าพูดน้อยแต่เคลียร์ดีกว่าพูดได้เยอะแต่ไม่ชัด ให้สอนน้อยๆแต่เน้นการออกเสียงและพูดจากความรู้สึก นี่แหละคือแนวทางของเด็กสองภาษาครับ