ปลื๊ม ปลื้ม

Posted by อรดา พงศ์สุธนะ on December 27, 2009 at 9:30am

เมื่อวานได้ออกไปกินขนมปังร้านในเมืองแถวนี้ มีดาและเคทไป ซึ่งปกติช่วงนี้เก็บตัวแล้วค่ะ เนื่องจากท้องใหญ่โย้เย้ จะไปไหนมาไหนก็ไม่สะดวกเอาเสียเลย ปกติจำศีลอยู่ที่บ้านแบบไม่ออกไปไหนเลยราวๆเดือนได้ค่ะ ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้เราไม่เห็นโลกภายนอกเลย

เราเลือกโต๊ะนั่งในร้านขายขนมปังแบบไกลคนอื่นนิดหนึ่ง เพราะในใจเราคิดว่า ไม่ได้ต้องการจะอวดใครว่าเรากับลูกคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ เพราะการที่เราอยู่ต่างจังหวัดแบบนี้ พูดภาษาัอังกฤษกับลูก (อาจมีคนว่าได้ว่า ทำไมเธอ…ดั๊ช ชา ริท จังเลย)

จากนั้นเราก็สั่งอาหาร เครื่องดื่ม และดาก็เล่นและพูดคุยกับเคทเรื่องทั่วไป พยายามชวนเขาดูโน่นนี่ (เพื่อที่เขาจะไม่ลุกเดินออกจากโต๊ะ ..แหะๆ ซึ่งเป็นปกติค่ะ เคทไม่ค่อยนั่งอยู่กับที่นาน) โดยส่วนตัวแล้ว ดาจะไม่พูดภาษาอังกฤษกับลูกเสียงดังมากเพราะเราเกรงใจคนอื่นค่ะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราอวดรู้

ระหว่างนั้น เคทก็เริ่มส่งเสียงดัง พูดภาษาอังกฤษอย่างโน้นอย่างนี้ เช่น I will eat jelly empty. I want some water. etc.Mother, I’m here!!(ระหว่างที่เขาไปดื่มน้ำ) ตามประสาเด็กนะคะ เพราะเขาไม่รู้ว่าระดับเสียงของเขาเนี่ยดังไปเท่าไรแล้ว ซึ่งเราก็คงจะไม่ได้ไปห้ามลูกว่า อุ้ย อย่าพูดภาษาอังกฤษสิ อายเขา แต่ด้วยความที่เราคุยสนุกกับลูก ก็ยังไม่ได้สนใจ

สักพักหนึ่ง โต๊ะข้างๆเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว…เิริ่มหันมามอง…คงจะหันมามองว่า เอ้ ..แม่กับลูกคู่นี้คนไทยหรือเปล่า เริ่มพินิจพิเคราะห์ดูสีผมดูหน้าตา ว่าเป็นคนชาติไหน ทำไมพูดอังกฤษกันแจ้วเจื้อยที่เดียว เขาิเริ่มมองหน้าแม่ – หน้าลูก เอ้…คนไทยนี่หว่า ทำไมพูดอังกฤษกันจ้อยๆๆเลยหือ เขามองไปก็วิจารณ์ไปและก็พากันยิ้ม (คิดว่าเขาคงประหลาดใจและแปลกใจนะคะว่าเด็กเล็กๆ ทำไมพูดอังกฤษได้ดีจัง)

เรานั่งสักพักก็เตรียมจ่ายเิงินทีแคชเชียร์เพื่อจะกลับบ้าน และแล้วคำถามก็หลุดจากปากแคชเชียร์ว่า ขอโทษนะคะ น้องพูดไทยได้ไหมคะ (จุดนี้ละค่ะ สุดปลื้มเลย) ดาก็ยิ้มและก็บอกกับเขาว่าพูดได้ค่ะ ลองคุยกับเขาสิคะ เคทก็พูดและตอบกับแคชเชียร์ด้วยภาษาไทยเป็นปกติค่ะ และเขาก็ชมว่าเคทยังเล็กมากเลยแต่พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก

เรื่องที่รู้สึกปลื้มใจมากก็คือ เมื่อก่อนเวลาดาเจอลูกครึ่ง ดามักจะถามเขาเสมอว่า น้องพูดไทยได้ไหมคะ แต่มาวันนี้มีคนถามคำถามแบบเดียวที่เราถามครอบครัวลูกครึ่ง ย้อนกลัีบมาหาเรา มันทำเอาเราปลื้มใจมาำกๆเลยค่ะ เพราะเราสร้างเด็กสองภาษาขึ้นมาเองจากตัวเราเอง

จากเดิมที่คิดว่า ทำไมเราต้องท่องคำศัพท์เยอะจังเลย มีสองเล่มหลายหน้าเหลือเกิน กลัวไม่ทันสอนเคท หรือแม้แต่บางอัน ก็ยังลืมเลยขนาดเคยพูดเคยใช้กับเคทไปแล้ว ความท้อถอยและขาดกำลังใจมันพังทลายไปหมดเลย กลับมีแรงฮึดที่จะสอนเคทต่อไปแบบไม่หยุดยั้งทีเดียว

เชื่อว่าหลายครอบครัวที่เริ่มสร้างเด็กสองภาษาก็คงจะมีจุดที่เราฟังแล้วปลื้มใจจากคนรอบข้าง ขอให้เอาจุดนี้มาเป็นแรงผลักดันให้ทำให้สำเร็จ

คุณบิ๊กและครอบครัว อีกแล้วค่ะ

เขียนบล็อคทีไรก็ไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณกับคุณบิ๊กนะคะ หากดาไม่ได้ตัดสินใจทำระบบโอพอลแล้ว ยังนึกไม่ออกเลยค่ะว่า ภาษาอังกฤษของเคทและดาจะเป็นอย่างไร เราคงต้องแปลทีละคำ ทีละประโยคไปเรื่อยๆ และสุดท้ายก็คงเข้าสู่ระบบการเีรียนภาษาัอังกฤษแบบเก่า ซึ่งไม่ประสบผลค่ะ

คุณบิ๊กเป็นผู้จุดประกายแนวคิด และสามารถทำให้ดาเอาไปต่อยอดและสร้างเด็กสองภาษาด้วยมือเราเอง และชอบคำพูดที่คุณบิ๊กเคยพูดว่า ประหยัดงบและมีความสุขค่ะ ขอเพิ่มนะคะ ทำได้จริงด้วยค่ะ