ก้าวสู่ภาษาที่สาม…กับบันไดสามขั้นแรก

Posted by คุณแม่น้องอิ่ม & เอม on August 10, 2011 at 10:52am

ผ่านมา 1 ปี 4 เดือน กับภาษาที่สอง ช่วงสามเดือนแรกของการสร้างลูกให้เป็นเด็กสองภาษา แอบฝันไว้ว่า เพียงแค่ลูกตื่นมาตอนเช้าแล้วพูดอังกฤษโดยอัตโนมัติไม่ต้องเตือน ฝันนี้ก็เป็นจริงแล้ว เราแม่ลูกพูดภาษาอังกฤษในกิจวัตรประจำวันมาอย่างต่อเนื่อง ความเข้มข้นมากขึ้นตามความถี่และเวลาที่ผ่านไป ตอนนี้ภาษาที่สองของบ้านเราเริ่มนิ่ง ความตื่นเต้น ความอยากรู้ไม่ค่อยสนุกเท่ากับช่วงแรกๆ ไม่ได้หมายความว่าเรารู้เยอะแล้ว พูดถูกหมดแล้ว หรือพูดสำเนียงดีแล้วนะคะ แต่มันเริ่มนิ่งๆ มากกว่า คำศัพท์ ประโยคใหม่ๆ มีเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ เรายังคงเรียนรู้เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบอะไร การพยุงการพูดยังมีอยู่เหมือนเดิม

ตลอดเวลาที่เป็นสมาชิกหมู่บ้านนี้ได้เห็นพัฒนาการของหลายๆ ครอบครัวที่น่าทึ่งและเป็นแรงผลักดันให้เหมี่ยวไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ด้วยความนึกสนุกของเหมี่ยวเอง (ขอฝันอีกครั้ง) กับการจดๆ จ้องๆ ภาษาจีนให้เป็นภาษาที่สามของบ้านเรา ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เคยมีพื้นฐานเลย ครอบครัวไม่มีเชื้อสายจีน ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะพูดจีน แต่ก็อยากลองดู ดีกว่าปล่อยเวลาให้ผ่านไป แอบเข้าข้างตัวเองว่าภาษาที่สองของลูกแข็งแรงแล้ว จึงตัดสินใจเริ่มภาษาจีนเป็นภาษาที่สาม เตรียมตัวเองก่อน หัดอ่านพินอิน เรียนรู้คำศัพท์รอบตัว วลีง่ายๆ ประโยคสั้นๆ จากการหาหนังสืออ่านเพิ่มเติม ดูคลิปการสอนภาษาจีนกลาง และฟัง MP3 ในรถ (ฟังแล้วฟังอีก ซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น บทเดียวฟังอยู่เป็นเดือนๆ จนพูดตามได้เกือบหมด เหมือนเด็กที่ดูการ์ตูนหลายรอบจนรู้ว่าต่อไปจะพูดอะไร) พยายามเลียนแบบการพูดตามเจ้าของภาษาแล้วนำมาฝึกพูดกับลูกไปพร้อมๆ กัน อุปสรรคของภาษาที่สามที่เจอนั้น ต่างกันกับภาษาที่สอง คือ เหมี่ยวไม่มีพื้นฐานภาษาจีนเหมือนภาษาอังกฤษที่เรียนมา 12 ปี เวลาอยากพูดเป็นประโยค ก็พูดไม่ได้อย่างใจคิด ติดขัดไปหมด จะพูดทีก็ต้องวิ่งไปเปิดหนังสือ ไม่มั่นใจ อึดอัดพอสมควร หาการ์ตูนจีนดูก็ยาก ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรที่ควรจะเป็นต้นแบบการเลียนเสียงที่ดี แต่สิ่งที่ง่ายกว่าสำหรับภาษาที่สามคือ เราเข้าใจในแนวคิดมากขึ้น เริ่มต้นสร้างพื้นที่ปลอดภัยกันอีกครั้ง ฝึกพูดออกเสียงให้ชัดเจน เลียนแบบสำเนียงจากเจ้าของภาษา เน้นความถี่ พยุงการพูด เรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า รักษาความสนุกให้อยู่กับตัว สิ่งเหล่านี้ได้เรียนรู้มาจากการสอนภาษาที่สองมาแล้ว ช่วงที่เตรียมตัวเองนี้ได้มีโอกาส (ในหน้าที่) พบกับชาวสิงคโปร์ ตอนแรกเริ่มสนทนากันเรื่องงานด้วยภาษาอังกฤษ คุยไปสักพัก เริ่มถามเค้าว่าพูดจีนได้มั้ย (เรารู้อยู่แล้วว่าพูดได้แน่ๆ อยากลองพูดจีน ดูว่าเค้าจะฟังเรารู้เรื่องมั้ย) ก็เลยเริ่มสนทนาจีนกันแบบง่ายๆ : ดื่มกาแฟมั้ย กินข้าวหรือยัง อิ่มแล้วค่ะ เค้าฟังเข้าใจและแปลกใจเล็กน้อย ถามว่าทำไมเราถึงพูดจีนได้ ตอบไปว่ากำลังฝึกพูดกับลูก ระหว่างนั้นก็จีนปนอังกฤษกันไป เปลี่ยนประเด็นจากเรื่องงานหันมาคุยเรื่องลูกกันต่อซะอย่างนั้น เค้าก็เล่าให้ฟังว่าที่สิงคโปร์เด็กๆ เรียนอะไรกันบ้าง น่าประทับใจกับการเริ่มต้นเรียนรู้ภาษาจีนอยู่ไม่น้อย ไม่ใช่แค่ฝึกพูดจีนกับลูกในบ้านอย่างเดียว ส่วนน้อง(ที่ทำงาน)นั่งอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเราพูดจีน ถามว่าพูดจีนได้ยังไง ไปเรียนมาเหรอ เลยตอบไปว่า ต้องมีลูกก่อนแล้วจะรู้ว่าพูดได้ยังไง ฮ่าๆ เพื่อก้าวต่อไปเป็น เด็กสามภาษาพ่อแม่สร้างได้ พื้นที่ปลอดภัยเล็กๆ ของเราแม่ลูกถูกสร้างขึ้นอีกครั้ง เริ่มจากตื่นนอน อาบน้ำ แปรงฟัน เพิ่มมาช่วงเวลากินข้าว ทำการบ้าน สอนบวกเลขง่ายๆ และเข้านอน อิ่มตอบรับด้วยดี เรียนรู้จากท่าทาง บันทึกความจำด้วยประสาทสัมผัสของเค้าเอง และพูดตามอย่างสนุกสนาน สองเดือนผ่านไป…อิ่มสามารถตอบคำถามง่ายๆ อ่าน-นับเลข พูดทักทายสั้นๆ ได้ บ่อยครั้งที่ถามว่าประโยคแบบนี้ พูดจีนพูดยังไง ทำเอาแม่ต้องรีบไปหาคำตอบ ส่วนเอมกำลังอยู่ในวัยหัดพูด ใครพูดภาษาอะไรเอมพูดตามหมด จนคุณยายเริ่มงงว่า หลานพูดภาษาอะไร ทุกอย่างเริ่มกลับมาสนุกกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เหมี่ยวไปอย่างช้าๆ ช้าจริงๆ เพราะเราเองก็เพิ่งเริ่มศึกษา ไม่เร่ง ไม่เครียดเหมือนตอนที่เริ่มภาษาที่สอง ทุกอย่างเกิดจากการพูดเลียนแบบล้วนๆ เพราะเหมี่ยวอ่านจีนไม่ได้ เขียนจีนไม่เป็น และยังไม่คิดจะอ่านหรือเขียนในเร็ววัน ได้แต่หัดพูดโดยอาศัยความถี่จากการฟังทุกวันและการเลียนแบบการพูดตามเจ้าของภาษา เหมือนที่เหมี่ยวใช้หลักการนี้ทำให้ลูกพูดภาษาที่สองได้ สัปดาห์ก่อนไปรับอิ่มที่โรงเรียนคุณครูบอกว่าอิ่มพูดจีนกับเพื่อน สอนเพื่อนเสร็จเรียบร้อย พูดอย่างนี้ แปลว่าอะไร แม่แอบปลื้ม เออ..ที่เราพูดๆ อยู่ทุกวัน มันเห็นผลบ้างแล้ว มีพลังให้เดินหน้าต่อไป…..ระยะแรกนี้ เรียกได้ว่า เราอยู่ในช่วงบันได 3 ขั้นแรก ขึ้นๆ ลงๆ อยู่สามขั้น อิ่มยังไม่สามารถสร้างประโยคได้เอง จึงเอาคำศัพท์จีนมาใส่ในประโยคอังกฤษ ‘Mommy, Aim does not shuā yá’ (เอมไม่แปรงฟัน) ล่าสุดเมื่อวานกลับจากทำงาน อิ่มนั่งทำการบ้านอยู่ ก็เลยเดินเข้าไปดู อิ่มพูดว่า ‘Mommy (ยังไม่เรียก Māma), jīn tiān yǒu zuò yè’ (วันนี้มีการบ้าน) ประโยคนี้ฝึกพูดกับอิ่มตอนที่เค้ามีการบ้าน (พูดมาหลายอาทิตย์แล้ว) จนเมื่อวานอิ่มพูดออกมาเอง…..เราแม่ลูกคงอยู่ในช่วงบันไดสามขั้นแรกอีกพักใหญ่ๆ กับภาษาที่สาม ฝึกซ้อมเดินขึ้นลงให้คล่องแล้วค่อยไปกันต่อ การต่อยอดภาษาที่สามจากโรงเรียนในหลักสูตรของชั้นประถมจะเริ่มเรียนภาษาจีนตามมา ระหว่างนี้ขอซักซ้อมเตรียมความพร้อมล่วงหน้าไปก่อน อิ่มเองก็ตื่นเต้นกับภาษาจีนอยู่ไม่น้อยทีเดียว และยังใช้ภาษาอังกฤษพูดคุยกับแม่เหมือนเดิม เหมี่ยวคิดว่าเรายังมีเวลาอีกเยอะที่จะเรียนรู้ภาษาที่สองและสามไปพร้อมๆ กัน ไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมาเลย ทุกวันมีมันมีค่าจริงๆ ค่ะ บล็อคนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นบันทึกเรื่องราวพัฒนาการของเราและเป็นของขวัญวันแม่ที่เราแม่ลูกมอบให้กัน อาจจะพอเป็นแนวทางสำหรับครอบครัวที่คิดจะเริ่มสอนภาษาที่สามอยู่บ้าง ขอขอบคุณครอบครัวผู้ใหญ่บ้านและอีกหลายๆ ครอบครัวในหมู่บ้านนี้ที่ช่วยจุดประกาย เป็นต้นแบบและเป็นแรงบันดาลใจให้บ้านเราค่ะ

หากพิมพ์พินอินผิดต้องขออภัยด้วยค่ะ ท่านใดมีเพลงจีนสำหรับเด็กหรือการ์ตูนอยากแนะนำจะยินดีมากค่ะ มือใหม่จริงๆ