โจทย์นี้ที่ท้าทายเลี้ยงลูกเอง (คนเดียว) ทำงาน Full time พร้อมกับการผลิตเด็กสองภาษา

Posted by คุณแม่ กับน้องธีร์ on January 25, 2014 at 9:36am

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณบิ๊กนะคะที่ได้เพียรพยายาม สร้างสรรค์หนังสือเด็กสองภาษาขึ้นมาหลายคนที่อ่านบอกเลยว่ามัน “ เทพมาก ” แล้วก็ขอบคุณบ้านหลังใหญ่ที่มีสมาชิกน่ารักๆมาคอยแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆ คอยกระตุ้นและเป็นกำลังใจให้กันและกัน อบอุ่นทีเดียวค่ะ

ดิฉันเองก็เก็บเล็กผสมน้อย อ่านเรื่องราวของคนโน้นคนนี้ มาปะติดปะต่อกันเป็นแนวทางของตัวเอง แน่นอนทางมันไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้ ปัญหาของดิฉันก็เหมือนกับหลายๆคนคือ ภาษาอังกฤษค่อนข้างแย่ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ลูก อยู่ที่แม่มันนี่แหละ เป็นคนหนึ่งที่ถามตัวเองมาตลอดว่า “ ทำไมเราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้” แล้วก็พยายามค้นหาต่อว่า “ทำอย่างไรจะพูดภาษาอังกฤษได้” โหลดคลิปมาฟังก็พอฟังเข้าใจบ้าง แต่พอเจอฝรั่งตัวจริง เฮ้ยยยย!!! ทำไมเราฟังไม่ออก สรุปได้ว่าเรามีปัญหาการฟังนี่เอง พอได้มาอ่านหนังสือสองภาษา อืม มันใช่เลย แล้วได้ workshop การออกเสียงยิ่งใช่เข้าไปใหญ่ มาถึงตรงนี้ทำให้เราเคลียร์ขึ้น

กว่าจะฟังรู้เรื่องกว่าจะแยกคำได้ ใช้เวลาตอนที่ลูกอยู่ในท้องฟัง และดูคลิปทุกวัน คายุ(ช่วยได้เยอะเลยค่ะ) การสอนวิชาชีววิทยา วิทยาศาสตร์มั้ง (เออเรารู้เรื่องแฮะ) ฟังเพลงเด็กมั้ง ใช้ความถี่อย่างที่คุณบิ๊กบอกไว้ และแล้วคลังคำศัพท์ที่เราได้สะสมไว้มันก็เริ่มทยอยกันออกมาทำงาน

เริ่มเลยละกันกับเด็กสองภาษา….ที่แม่กำลังจะสร้าง

  • เริ่มตั้งแต่เกิดพูดภาษาอังกฤษกับลูกมั้งไม่พูดมั้ง นานๆพูดบ้างเพราะคิดว่าเค้ายังเล็กอยู่คงเข้าใจอะไรได้ไม่มาก จำอะไรไม่ได้หรอก (ดูถูกเด็กฮา…ฮ่า) แต่ก็เปิดเพลงภาษาอังกฤษให้ฟัง เช้าเย็นเราก็ซึมซับไปด้วย จากร้องไม่ได้ตอนนี้ร้องได้แล้ว…..
  • อุปสรรคไม่ได้มีแค่นั้น เราทำงาน Full time กลับมาก็เหนื่อยล่ะ แถมอยู่กับลูกสองคนไม่มีผู้ช่วยเลย จ้างเลี้ยงเฉพาะกลางวัน เสาร์ อาทิตย์ก็เลี้ยงเอง สามีอยู่ต่างจังหวัด นานๆมาครั้งหนึ่ง (มาพูดคำเมืองกับลูก)
  • มาถึงตรงนี้ทั้งเครียด ทั้งเหนื่อย แต่โชคดีที่เค้าเป็นเด็กเลี้ยงง่าย กินง่าย อารมณ์ดี

มีท้อบ้าง หยุดทำบ้าง…..พอเห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความไร้เดียงสาของเค้า ก็กลับมาสู้ใหม่ เริ่มใหม่ ก็เราประกาศให้ชาวโลกรู้แล้วนี่ว่าเราพูดภาษาอังกฤษกับลูก ต้องไม่แคร์สื่อนะ ชั้นจะทำอะไรประมาณนี้(5555)ทำแบบกดดันแล้วก็หวังผล ณ ตอนนั้น เร่งตัวเองจนลืมไปว่าลูกยังเล็กอยู่เลย ยังไม่โตจะรู้เรื่องจะตอบสนองได้ยังไง ขนาดเราพูดไทย

  • เวลาที่ฝึกฝน เตรียมตัว คือตอนลูกเข้านอนค่ะ ไม่ได้ทำทุกวันนะคะวันไหนเหนื่อยก็พักบ้าง พิมพ์ประโยคต่างๆ แปะผนังห้องไว้จะพูดก็ดู จำไปพูดทีละหน่อยๆ เกือบทุกวัน หากำลังใจจากเว็บสองภาษา ท้อเมื่อไรก็เปิดดูๆ…….. ลุกขึ้นมาสู้อีกครั้งเพื่อลูก เหนื่อยแต่มีความสุข
  • อ่อ ลืมบอกไปดิฉันสร้างโหมดภาษาอังกฤษให้กับตัวเองได้แล้วนะคะ ไม่แปลแล้วพูด คิดกับพูดพุ่งออกไปพร้อมกัน (ขอบคุณจริงๆค่ะผู้ใหญ่บ้าน)
  • เริ่มมากขึ้นตอนน้องธีร์อายุ 8 เดือนค่ะ ใช้ประโยคง่ายๆทำเท่าที่ตัวเองทำได้
  • ตื่นเช้ามาก็ Good morning น้องธีร์ Good morning, Mommy

How are you today ? I’m fine. I’ OK ถามเองตอบเองอะค่ะ

Are you hungry? I ‘m so hungry, Mommy.

Do you want some milk/water? Yes, Mommy. ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษตลอดเวลาค่ะ

ประโยคไหนไมได้ก็คำเมืองเจ้า และก็ภาษากลางเป็นส่วนใหญ่

  • อ่านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษให้ฟังทุกวัน คำศัพท์ผลไม้ สัตว์ กขค
  • ทำไปก็ท้อนะไม่เห็นมีอะไร….เกิดขึ้นเลย
  • และแล้วสิ่งที่แม่ได้ทุ่มเทลงไป มันก็บังเกิดผล น้องธีร์อายุประมาณ 11 เดือนเริ่มชี้นิ้วเป็นถามด้วยภาษาส่วนตัวแล้วเราก็ตีความได้ว่า ถามว่านี่คืออะไร ตื่นมาก็ถามทุกเช้า ถามอันเดิมซ้ำๆ
  • ประมาณ 1 ขวบกับไม่กี่วัน ตอนอยู่กับพ่อ พ่อถามกลับด้วยคำเมืองว่า พัดลมอยู่ไหน นาฬิกาอยู่ ไหน กระจกอยู่ไหน ชี้ถูกแฮะ แม่ก็เลยลองถามเป็นภาษาอังกฤษมั้ง

Where is a fan/a clock/a mirror? ชี้ถูกแฮะ แม่ดีใจแถบจะกรี๊ดออกมา น้ำตาแห่งความดีใจจะไหลล่ะ (ก็เราเหนื่อยกับมันมาก) ที่ดีใจกว่านั้นคือ Where is your mommy ? ตบที่อกเรา Where is your daddy ? ชี้ไปที่พ่อ ชี้ถูกแฮะ ตอนนี้ก็หนึ่งขวบยังไม่ถึง 1 เดือน บอกสิ่งของในบ้านได้หลายชิ้น ของเล่น ของใช้ มีชี้ผิดบ้างบางครั้ง ยิ่งแม่ถามบ่อยจะเบื่อไม่ยอมชี้อันที่ถูก แกล้งชี้ไปเรื่อย เราก็บอกว่า No,It’not a fan. It’s a mirror. ทำตามคำสั่ง แล้วก็เข้าใจคำสั่งง่ายๆ เช่น come on come back stop ที่แม่ชอบ Kiss me ให้ของก็จะบอกว่า thank you, first เค้าก็จะยกมือไว้ clap your hands อีกเยอะเลย ชอบฟังเพลงภาษาอังกฤษที่แม่เปิดให้ฟังทำตามเพลงเอง clap your hands stamp your feetเหมือนดูรู้เรื่องหัวเราะไปกับเค้า….แลดูมีความสุข คุ้มที่สุดกับการลงทุนและทุ่มเทหายเหนื่อย และก็มีกำลังใจ (ส่งกำลังนี้เผื่อแผ่ไปถึงบ้านอื่นด้วยนะคะ Keep walking)

มีอยู่วันหนึ่งสอน flash card ถือ Fork มาอ่านให้ฟังน้องธีร์ ชี้ไปที่เจ้า Frog ที่นอนอยู่ เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าแม่ต้องทำการบ้านเรื่องการออกเสียงให้เคลียร์เพิ่มเติม

สรุป…..ได้ว่า

ใช้ความถี่ พูดซ้ำ ทุกวัน ยิ่งลูกเล็กเราต้องพูดซ้ำๆอยู่แล้ว
ออกเสียงให้เคลียร์ Pronunciation ต้องฝึกฝนให้เป๊ะ
ไม่เครียด ไม่กดดันตัวเอง ทำแบบสนุกสนานเล่นไปกับลูก สอนแบบไม่ได้สอน
ทำไปเรื่อยๆแบบไม่หวังผล….ลืมๆมันไปซะ แต่เราแอบแฝงด้วยเป้าหมาย (5555)

ด่านต่อไปคือ รอให้น้องธีร์พูดให้ได้ก่อน หนทางอีกยาวไกลนักท้อเมื่อไรก็มีเพื่อนร่วมทาง