มื้อนี้..กับเจ้าหนูยาโย

Posted by แม่เพ่ยขอแจม on September 26, 2011 at 8:41pm in ห้องรับแขก

เช้าวันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2554   ได้รับข้อความเชิญชวนทีเล่นทีจริงผ่านทางเฟรชบุ๊คจากน้องสาวแดนพนมสารคามว่าจะเข้ามาทำธุระที่กรุงเทพ  เจอกันหน่อยไม๊ที่กลางใจเมืองกรุงเทพ…ตอบกลับไปทีเล่นทีจริง เอาสิ แต่ขอที่ชานเมืองย่านบ้านพี่ได้ไม๊  ฮ่าๆ แล้วการสื่อสารก็เงียบหายไป…

ใกล้เที่ยง..น้ำย่อยเริ่มทำงาน กำลังชวนคุณบิีกไปทานก๊วยเตี๋ยวเรือ เสียงโทรศัพท์ดัง มองชื่อคนโทรมา..อ๊ะ…

หลังจากนั้น 1 ชั่่วโมง เราสองก็เจอกัน

ย้อนหลังไปปีกว่า ครอบครัวน้องยาโยเข้าร่วม วช.เด็กสองภาษาที่กรุงเทพ และเราก็มีการทักทายผ่านเวปหมู่บ้านสองภาษานี้บ้างเป็นครั้งคราว และก็แอบคิดในใจไม่ได้ว่า บ้านนี้ทำไมเที่ยวเก่งนักเนี่ย เดี๋ยวก็โพสรูปไปเที่ยวฮ่องกง  ไปจีน ไปลาว เดี๋ยวขึ้นเหนือ แล้วมาโผล่อีกทีที่อีสาน อ่า…วังตะไคร้ วังน้ำเขียว วังน้ำแดงไปมาหมดเลย อิจฉาจนตาลาย 

แล้วก็มีโอกาสพบกันอีกครั้งเมื่อพี่ไปธุระที่วัดหลวงพ่อโสธร ด้วยคิดว่าบ้านกิ้มอยู่ใกล้ จึงชวนกันทานข้าว..กว่าจะรู้ว่าไกล..ก็ผ่านไปหลายเดือน  หุหุ  ว่าไปแล้วเราได้ทานข้าวด้วยกันหลายครั้งเหมือนกันนะเนี่ย

ความประทับใจ…เกิดเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว เมื่อมีการจัด วช.เด็กสองภาษาที่ปราจีนบุรี ดินแดนที่เราไม่คุ้นเคย  กิ้มบอกจะแวะมาหา พี่ก็กลัวว่าจะไกล แต่กิ้มบอกไม่ไกลเลย ขับรถแป๊บเดียว…..

สายๆรถคันใหญ่ก็แล่นเข้ามาในเขตโรงแรม  คนขับตัวนิดเดียวเมื่อเทียบกับรถ พร้อมเจ้าหนูยาโย และของฝากอลังการมากค่ะ กิ้มนั่งนิ่งๆอยู่เป็นเพื่อนพี่จน วช.เลิก พร้อมๆกับน้องเจี๊ยบ โดยที่ไม่ได้เข้าไปฟัง วช.เลย รู้สึกเสียดายเวลาแทนน้องสาวคนนี้มาก ไม่บ่นอะไรสักคำ ต้องบอกว่า ณ เวลานั้นความเกรงใจมันทะลักมากค่ะน้อง เราได้นั่งทานข้าวเย็นด้วยกันอีกมื้อ คุยกันไปเรื่อยๆ ความประทับใจค่อยๆก่อตัวมากขึ้น เริ่มมืด เริ่มออกเดินทางกลับบ้าน กิ้มนำทางไประยะหนึ่ง รถก็หายแว๊บไป จนพี่คิดว่ากิ้มคงเลี้ยวเข้าบ้านไปแล้ว เพราะบอกว่าอยู่ไม่ไกล  คุณบิีกขับรถต่อไปเรื่อยๆอีกเกือบครึ่งชั่วโมง..กิ้มโทรบอกว่ากำลังจะเลี้ยวเข้าซอยบ้านแล้ว โห….พี่จึงรู้ว่าจากโรงแรมมาบ้านกิ้มไกลมาก ทั้งมืด..รถบรรทุกก็เยอะ แล้วกิ้มยังติดตามโทรบอกทางพี่ไปเป็นระยะๆ…จนในที่สุดพี่ก็หลงทาง…พร้อมๆกับหลงรักครอบครัวน้องสาวคนนี้ไปแล้วอย่างช่วยไม่ทัน

พี่ชอบกิ้มมาก ตรงที่ชวนไปไหนก็ไป แต่จะได้ไปจริงหรือเปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หุหุ วันที่รู้ว่ากิ้มมีแฟรนไชน์หมูปิ้ง คือวันที่กิ้มมาบ้านพี่แล้วหิ้วหมูไปแลกกับหนังสือมือสองของหมอหน่อย ..ในใจเราก็คิด..เฮ้ย บ้านเราหนังสือก็เยอะ เอามาแลกบ้างดีกว่า  ฮ่าๆๆ

ตะล่อมน้องจนได้กินหมูปิ้ง..มื้อแรกที่ฟาร์มโชคชัย..อ้อนไปเรื่อยๆจนได้ปาร์ตี้หมูปิ้ง..ที่ไม่ได้จบลงเพียงแค่ครั้งเดียว..ยังคงมีครั้งต่อๆไปตามมาอย่างต่อเนื่อง…กิ้มและพ่อเป้ไม่เคยปฎิเสธเลย

ความประทับใจอีกเรื่องที่ฝังในความรู้สึก ในยามที่พี่สติลุกเป็นไฟ น้องคนนี้ไม่เคยเป็นฟืนที่เพิ่มเชื้อไฟ หรือแม้แต่จะเป็นน้ำที่มาราดดับไฟ หากแต่จะคอยกันไม่ให้ไฟลามออกไปนอกกองของมัน  และมอดลงไปเอง

พี่คุยกับน้่องสาวคนนี้ได้บ่อยมาก ตามที่ใจต้องการ..จนกระทั่ง…น้องสาวพี่แพ้ท้องนอนทั้งวัน  ฮ่าๆ

วันนี้มีโอกาสได้ต้อนรับน้องสาวคนนี้และบันทึกเรื่องราวในห้องรับแขก..พี่ดีใจนะคะ ความจริงเรื่องราวของน้องสาวคนนี้ต้องถูกบันทึกนานแล้ว แต่ช่างภาพพี่..ส่งภาพไม่ถูกใจเลย..พี่เลยต้องไปค้นหาเองเพื่อเอาแต่ภาพสวยๆมาลงนะ..อากิ้มนะ   นะพ่อเป้นะ  ฮ่าๆๆๆๆ

ขอบคุณนะคะกิ้ม..พ่อเป้..เจ้าหนูยาโย…ผู้ที่ทำให้พี่รู้สึก ณ วันนั้นที่เราได้ทานโออิชิร่วมกันจริงๆว่า 

“ระหว่างกลับบ้าน..อดรู้สึกไม่ได้ว่าจู่ๆก็มีน้องเพิ่มขึ้นมามาก มาย..แม้ไม่ได้มาจากพ่อแม่เดียว กัน แต่ก็รู้สึกอบอุ่น..ทุกครั้งที่ ได้พบเจอ  จะมีสักกี่คน..ที่โชคดีอย่างเรา”

ปล.วันนั้นที่โออิชิ ต้องบอกว่า  ยาโยนี่..อย่างฮา และฮาอย่างแรงเลยจริงๆนะคะกิ้มพ่อเป้