บันทึกพัฒนาการของ แม่สองภาษา vs ลูกสองภาษา

Posted by Tao’s mamy รักในหลวง on April 7, 2010 at 6:15pm

เริ่มสอนตามแนวคิดเด็กสองภาษา
ตอนเด็กอายุ : 8 เดือน – ปัจจุบัน 1 ขวบ 4 เดือน

ระบบที่เลือกใช้ : OPOL แม่พูดอังกฤษ พ่อพูดอังกฤษบางเวลา

อาชีพแม่ : ค้าขาย การศึกษาแม่ : ป.ตรี
ระดับภาษาอังกฤษของแม่ : ม.6 , กลัวฝรั่ง, ฟังไม่ออก พูดไม่ได้ เพราะแม่ไม่เคยพูดภาษาอังกฤษในชีวิตจริงเลย สมัยทำงานเคยโดนล้อไม่เลิกเมื่อพูดอังกฤษ จึงติดต่อลูกค้าทางอีเมลอย่างเดียวเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง จากนั้นเมื่อมาค้าขายก็ใช้เพียงวลีสั้นๆ เช่น yes, no, sorry, thank you.

อุปสรรคและการแก้ไข

  1. แม่: ต้องรื้อฟื้นความรู้ ภาษาอังกฤษใหม่หมด ขาดความมั่นใจ

การแก้ไข : ทำตัวเหมือนเป็นแก้ว ที่เทน้ำออกให้หมด เปิดใจให้กว้าง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอย่างหิวกระหาย

  1. แม่ : ไม่กล้าพูดเวลาออก นอกบ้าน อายคนไทยด้วยกันเอง เพราะสำเนียงเห่ย

การแก้ไข :วันหนึ่งได้ยิน ผู้หญิงคุยโทรศัพท์มือถือเสียงดังในห้าง สำเนียงแย่มาก (ไอมิ้ดยูออนเด… I miss you all day)แต่เค้ามั่นใจและไม่แคร์สายตาใคร เลยคิดได้ และเลิกอายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

  1. แม่ : พอเริ่มต้นได้สัก ระยะหนึ่ง แม่เริ่มท้อ เพราะเครียดหนัก เมื่อเจอไวยากรณ์ที่ยากขึ้น กลัวจะสอนลูกผิด กลัวลูกพูดสำเนียงแย่ตามแม่

การแก้ไข : ได้รับกำลังใจอย่าง มากมายจากผู้คนในห้องอิงลิชคลับ ทำให้เลิกท้อ กลับมาฮึดสู้ใหม่ และเนื่องจากลูกยังไม่เริ่มพูด จึงต้องสมมติเหตุการณ์ต่างๆ แล้วคุยโทรศัพท์กับลูก พยายามพูดทุกสิ่งที่คิดในใจออกมาเพื่อฝึกการแต่งประโยค,อ่านหนังสือนิยายภาษาอังกฤษ, ดูภาพยนตร์โดยเปิด caption ตามไปด้วย ส่วนด้านสำเนียงก็ได้ความกระจ่างหลังจากอ่านกระทู้ของผู้ใหญ่บิ๊กในช่วงนั้น ว่าควรออกเสียงให้เคลียร์ และชัดเจนจะดีที่สุด

  1. แม่ : เมื่อเห็นเด็กส่วนใหญ่เข้าโรงเรียนโปรแกรมอังกฤษกับโรงเรียนอินเตอร์ ก็เริ่มคิดมากและเริ่มผิดหวังกับระบบเด็กสองภาษา เพราะกลัวว่าถ้าส่งลูกเรียนโรงเรียนไทยธรรมดาแล้ว ความพยายามที่สอนลูกทั้งหมดจะสูญเปล่า
    การแก้ไข : ปรึกษากับคุณแม่ใน เว็บสองภาษาที่ส่งลูกเรียนโรงเรียนไทยธรรมดา
    จนได้รับความมั่นใจ และกลับมาเชื่อมั่นในระบบสองภาษานี้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังได้กำลังใจและการเตือนสติจากพ่อที่เตือนให้นึกถึงแรงบันดาลใจตอนแรกเริ่ม ว่าเราแค่ต้องการให้ลูกไม่กลัวฝรั่งและใช้ภาษาอังกฤษอย่างไม่เขินอายไม่ใช่หรือ เพราะฉะนั้นหากลูกเรียนรร.ไทยแล้ว ภาษาอังกฤษของเค้าไม่ดีเลิศเทียบเท่ากับเด็กที่เรียนรร.โปรแกรมอังกฤษก็ไม่เห็นเป็นไรเลยยังไง ก็ไม่ขาดทุนอยู่แล้ว
  2. เริ่มกังวลว่ามีเวลาอยู่กับลูกน้อยไปหรือเปล่า และขณะที่อยู่กับลูกก็พูดไทยกับป้า
    ลูกจะสับสนและเป็นสาเหตุของการพูดช้าของลูกหรือเปล่า

การแก้ไข : ปรึกษาคุณแม่ในเว็บ โดยเฉพาะพี่เล็กจนหายกังวล การพูดเร็วช้าของเด็กอยู่ที่พัฒนาการของเค้าเอง
และไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลามากหรือน้อย ที่สำคัญคืออย่าใจร้อน ต้องค่อยๆทำเปรียบเหมือนการตอก
เสาเข็มบ้าน ต้อง ค่อยๆวางรากฐานให้แข็งแรงก่อน

พัฒนาการ ของแม่สองภาษา VS ลูกสองภาษา

เดือนแรก-เดือนที่ สาม

แม่ – ดูดีวีดีที่หนังสือแนะนำ ฝึกพูดตาม ท่องเนื้อเพลงแล้วหัดร้อง
ค้นหาตำราไวยากรณ์เก่าๆ มาอ่าน ตามอ่านกระทู้ทั้งหมดในห้องอิงลิชคลับ แต่ยังพูดไทยกับลูกเป็นส่วนใหญ่เพราะเห็นว่าลูกยังพูดไม่ได้

ลูก – เล่น Peekaboo, สามารถคลานหาแม่เวลา แม่พูดว่า Where is mommy? Can you find me?

เดือนที่สี่

แม่ – หลังจากชะล่าใจมา 3 เดือน เพราะคิดว่ามีเวลาเยอะ เนื่องจากเริ่มตอนลูกยังเล็ก ก็เริ่มหันมาทบทวนตัวเอง แล้วก็คิดได้ว่าจะทำแบบเรื่อยๆ อย่างนี้ไม่ได้ เพราะลูกจะครบหนึ่งขวบแล้ว แต่แม่ยังไม่เก่งขึ้นเลย รู้ศัพท์และไวยากรณ์มากขึ้นก็จริง แต่การพูดยังติดขัด ต้องคิดอยู่นาน การออกเสียงยังแย่เหมือนเดิม จึงเริ่มพูดอังกฤษกับพ่อด้วย และเริ่มตั้งกระทู้ถามในห้องอิง

ลูก – พูด ปาปา ได้คำเดียว

เดือนที่ห้า – เดือนที่แปด

แม่ – ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากมายจากห้องอิงลิชคลับ พูดอังกฤษกับลูกเกือบ 100% ไม่รู้สึกตื่นเต้นเวลาคุยกับฝรั่ง ถึงยังพูดติดขัดอยู่ แต่ไม่ถึงกับนึกศัพท์ไม่ออกเหมือนเมื่อก่อน เทียบกับบันได 7 ขั้น ก็ยังอยู่ระหว่างบันไดขั้นที่ 5 (E ประโยคคำถาม ตัวเลือก และปลายเปิด) คือยังเรียบเรียงประโยคยาวๆ และประโยคคำถามไม่ถูกต้องนัก…และยังต้องฝึกฝนกันต่อไป

ลูก – ยังพูดได้คำเดียวเหมือนเดิม แต่สามารถทำตามคำสั่งง่ายๆ และเข้าใจในสิ่งที่พูดเป็นภาษาอังกฤษ เช่น Give me …, get it, take it, Open, clap your hand, Open your mouth, sweet smile, Pick it up, put it down, throw it away, feed the dog, where is the moon, sky, bird.., What should you do…Wai

คำ แนะนำเกี่ยวกับการสร้างเด็กสองภาษา : หาแรงบันดาลใจให้พบ แล้วลงมือทำเลย

ข้อสังเกต : เวลาน้อยกว่า

ลูกมีเวลาอยู่กับแม่ น้อยกว่าที่อยู่กับคนเลี้ยงซึ่งพูดภาษาไทยทั้งวัน
แต่ลูกกลับทำตามคำสั่งภาษาไทยได้น้อยกว่าภาษาอังกฤษ
เพราะฉะนั้นถึงมีเวลาอยู่กับลูกน้อยแต่ถ้าใช้เวลาให้คุ้มค่า และหาวิธีสอนแบบสนุกๆ
ลูกก็เข้าใจภาษาอังกฤษได้

ข้อสังเกต : 8 เดือน กับ 8 ปี

แม่ เริ่มฝึกภาษาอังกฤษที่เว็บนี้ เป็นเวลาเพียง 8 เดือน

แต่ภาษาอังกฤษของแม่ดีขึ้นกว่าการเรียนในโรงเรียนกว่า 8 ปี (ป.5 – ม.6)
อย่างเห็นได้ชัดเจน เว็บแห่งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงเว็บเด็กสองภาษาเท่านั้น แต่เป็นเว็บสอนภาษาที่มีประสิทธิภาพและยอดเยี่ยมยิ่งกว่าสถาบันสอนภาษาซะอีก

คำ ขอบคุณจากใจ
ขอบคุณ ผู้ใหญ่บิ๊ก พี่ตุ๊กตา น้องเพ่ยเพ่ย เจ้าของเว็บและเจ้าของหนังสือที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

ขอบคุณที่สร้างห้อง อิงลิชคลับขึ้นมาค่ะ

ขอบคุณ พี่เล็ก (แม่น้องเนย) เป็นคนแรกที่กล้าเข้าไปคุยด้วย
ประทับใจที่พี่เข้ามาตั้งคำถามในห้องอิงบ่อยๆ และเห็นความมุ่งมั่นและความพยายามของพี่ในรายการครอบครัวเดียวกันแล้วประทับใจมากเลยค่ะ

ขอบคุณ คุณครูประจำห้องอิง ครูพี่แพท ครูพี่อ๊อบ ครูพี่รี ครูพี่เก๋ ครูพี่จิ๊ ความมีน้ำใจและความเสียสละที่มอบความรู้ให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่ามากเกินกว่าจะบรรยายได้หมด

ขอบคุณ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ร่วมเป็นกำลังใจให้กันและกัน พี่ดา พี่ตังโอ คุณคิง คุณอ้อย พี่อ๋อ พี่อี๊ด พี่หนึ่ง พี่กิ้ม พี่ลี่ คุณหมอนุ้ย น้องแพร พี่ภา คุณนุ้ย พี่เสก คุณกว้าง น้องหญิง พี่หญิง พี่บี คุณตั๋ม พี่เม่ย น้องเจน พี่เอ๋ คุณจู และทุกๆท่านที่เป็นส่วนหนึ่งของห้องอิงลิชคลับค่ะ

ขอบคุณ โชคชะตาฟ้าลิขิต ที่วันเข้าพรรษาปีที่แล้ว 8 ก.ค.2552 ตรงกับวันพุธ ทำให้เราสามคนพ่อแม่ลูกได้ไปห้างด้วยกันครั้งแรกในรอบหลายเดือน จากความตั้งใจจะซื้อหนังสือ ก.เอ๋ย ก.ไก่ ให้ลูก
ทำให้ได้เจอกับหนังสือเด็กสองภาษาเล่มหนึ่ง และต้องขอบคุณฟ้าลิขิตอีกครั้งสำหรับข้อมูลด้านในปกหน้า…..ไม่อย่างนั้น….เราก็คงไม่ได้พบกัน

ขอบคุณค่ะ