บันทึกก่อนก้าวเข้าขวบปีที่หกของเด็กชายจุ้ยจุ้ย

Posted by Ju (Jui Jui’s mommy) on March 13, 2012 at 10:30pm

บล็อคนี้ตั้งใจมากมายเลย อาจจะตกหล่นไปบ้าง รีบมากอยากให้เสร็จก่อนลูก 6 ขวบ

บันทึกรักบ้าง ชังบ้าง ดราม่าบ้าง จากมั่มมี๊ถึงลูกชาย วัยแตะหกขวบในอีกไม่ถึงสองชั่วโมงนี้

ระหว่างบันทึกก็คิดถึงวันวาน ทำไมเวลาช่างรวดเร็วนัก อยู่ด้วยกันมาจะเจ็ดปีแล้วหรือ
จากตัวป้อมๆ 3.7 กก. ตอนนี้นี้ 21 กก. แล้ว

จากลูกหมูตัวน้อยๆ

กลายเป็นลิงจ๋อ จอมดื้อซน แต่น่ารักของบ้านเรา

ช่วงขวบปีแรก มั่มมี๊เลี้ยงจุ้ยจุ้ยมาค่อนข้างกระท่อนกระแท่นช่วงเดือนแรกๆ เพราะร้องไห้เก่งมาก
ช่วงเดือนแรก ร้องไห้จนมั่มมี๊แทบจะบร้ากันเลยทีเดียว ปะปี๊ต้องมารับไปอุ้มด่วนที่สุดเมื่อถึงบ้าน
เพื่อให้มั่มมี๊พักผ่อนซักสามสี่ชั่วโมง อาม่ายังบอกว่าเลี้ยงหลานมาสิบกว่าคน คนนี้ร้องไห้เก่งที่สุด
อาจเป็นเพราะจุ้ยจุ้ยถูกใช้ vacuum ดูดหัวออกมาด้วย เพราะตัวใหญ่ รกพันแขน กว่าจะคลอดได้
เบ่งเกือบชั่วโมง มั่มมี๊คิดอยากจะให้หมอเปลี่ยนเป็นผ่าคลอดเลยด้วยซ้ำ แต่ถึงคิดก็ไม่ทันแล้ว

พอผ่านช่วงร้องไห้ก็มาเจอช่วงลำบากกายของจุ้ยจุ้ยเข้าโรงพยาบาลตอน 7 เดือน ทางเดินปัสสาวะ
อักเสบ พอหายต้องอัลตร้าซาวน์ดู โชคดีที่ไม่มีความผิดปกติภายใน แต่ผิดปกติภายนอกเลยต้อง
จัดการขั้นเด็ดขาด หลังจากนั้นก็ไม่ป่วยด้วยโรคนี้อีกเลย

จุ้ยจุ้ยเป็นเด็กเดินและพูดไม่เร็ว เดินได้ตอนขวบกว่า พูดได้ตอนเกือบ 2 ขวบ คำแรกเลยที่พูดตามได้คือ
คำว่า “เต่า” พ่อแม่ดีใจใหญ่ ปรบมือให้ ลูกก็ยิ่ง เต่าๆๆ

ลักษณะนิสัยจุ้ยจุ้ยช่วงเด็กเล็กคงคล้ายๆ เด็กทั่วไป คือ ร่าเริง แจ่มใส ชอบเล่นกับพ่อแม่ ชอบได้ยิน
เสียงหัวเราะของคนเล่นด้วย ชอบเสียงเพลง เต้นรำ แต่มีหนึ่งลักษณะนิสัยที่จุ้ยจุ้ยแตกต่างออกไปคือ
ไม่ชอบเจอคนแปลกหน้า ไม่เล่นด้วย ไม่คลุกคลี

มั่มมี๊เคยพาไปพวก playgroup เด็กเล็ก จุ้ยจุ้ยไม่ให้ใครจับมือทั้งนั้น หวงตัวมากเลย ไม่เล่นกับใครด้วย
เล่นกับพ่อแม่ และผู้ช่วยในคลาสเท่านั้น


6 ปีที่ผ่านมามั่มมี๊ภูมิใจมากที่ได้เรียนรู้ไปกับลูกในหลายๆ เรื่อง และหลายๆ เรื่องที่ว่านี้ลูกก็ทำได้ดีกว่าแม่แล้ว

เรื่องภาษา ขอยกมาเป็นเรื่องแรกให้เข้ากับบ้านใหญ่ จุ้ยจุ้ยพูดคล่องแคล่วทั้งสองภาษา อ่านภาษาอังกฤษได้
ในระดับดีมาก อ่านไทยได้นิดหน่อย ภาษาจีนฟังทำตามคำสั่งได้ (อาม่าพูดอยู่คนเดียวในบ้าน)
มั่มมี๊ภูมิใจทุกครั้งที่มีคนชมเชยลูก เพราะเราก็เรียนไปพร้อมๆ กับลูก ตอนนี้ลูกไปไกลแม่ตามไม่ทันแล้ว
กิจกรรมทุกวันนี้จะต้องอ่านหนังสือภาษาไทยให้แม่ฟัง 1 เล่มทุกวันโดยจะเป็นเรื่องสั้นๆ ง่ายๆ อ่านซ้ำๆ
ให้จำรูปแบบ (ก่อนหน้านี้สอนเรื่องการอ่านพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์แล้ว) จุ้ยจุ้ยใช้ Phonics มาประยุกต์
กับการอ่านไทยด้วย เอากะเค้าสิ 555 พออ่านจบ ก็เข้ามุมหนังสือภาษาอังกฤษ อ่านเป็นชั่วโมงก็มี
บางครั้งแม่เผลอหลับ ตื่นมาลูกยังอยู่ที่เดิม ตกใจดึกมากแล้วไม่ยอมนอน O-o


เรื่องการเรียน จุ้ยจุ้ยชอบพวกตัวเลข คำนวณชอบมาก และจะเข้าใจอะไรได้ไม่ยากนัก ชอบทำพวก
worksheet มาก แต่ที่บ้านจะเป็นแนวสอนจากความเข้าใจ ไม่เน้นสอนลัด เพราะเชื่อว่าพื้นฐาน
การเรียนรู้ที่ดีมาจากความสงสัย พยายามหาคำตอบ เพื่อเข้าใจอย่างถ่องแท้ หากเรียนรู้โดย
ปราศจากความสงสัย มันไม่มี inspiration ในการต่อยอดออกไป ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากใน
อนาคตของลูก

ช่วงเล็กๆ จะสอนจำนวน การเพิ่ม การลด การแบ่ง ส่วนสัญลักษณ์เพิ่งจะมาเรียนตอนเข้างโรงเรียน
นี่แหละ พอจุ้ยจุ้ยเห็น ชอบมาก อยากทำแบบฝึกหัด

ตอนนี้จุ้ยจุ้ยอนุบาลสามแล้วที่โรงเรียนสอนบวกลบเลขสองหลัก จุ้ยจุ้ยชอบมาถามว่าคูณกับหาร
คืออะไร มั่มมี๊สอนคอนเซปต์ แต่ยังไม่สอนสูตรคูณ มั่มมี๊ว่ายังไม่ถึงวัยนะลูก

(เป็นความคิดเห็นของมั่มมี๊ล้วนๆ นะครับ)


เรื่องวิทยาศาสตร์ เกิดจากความสงสัย “ทำไมหนอ” ที่บ้านจะมีหนังสือเยอะมาก และ Google หาอะไรก็เจอ
ทำไมหนอจึงหาคำตอบได้ไม่ยาก ในบางทำไมหนอของจุ้ยจุ้ยก็น่าสนใจจนมั่มมี๊ต้องจัดการทดลองดูซะหน่อย
เช่น วิปปิ้งครีมผสมกับเกลือเขย่าๆ จะกลายเป็นเนย การทดลองในครัวใครว่าไม่สนุก จุ้ยจุ้ยชอบมาก
มั่มมี๊ให้ขึ้นทอดไข่ด้วยตัวเอง ทำแพนเค้กบ้าง จุ้ยจุ้ยสนใจทุกกระบวนการ ตวงแป้ง ตอกไข่ ตีไข่ ผสมส่วนผสม
ทอด ปิ้ง ย่าง ชอบทำทุกอย่าง เด็กๆ วัยนี้เป็นวัยอยากทดลอง อยากรู้ไปทุกเรื่อง ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะให้
เค้าได้เรียนรู้ตามความสนใจ พ่อแม่ไม่ต้องกระตุ้นเลย ศาสตร์ในครัวนี่สอนได้ตั้งแต่คณิตศาสตร์ไปจน
ศิลปะเลยค่ะ

เรื่องดนตรี มั่มมี๊มีทักษะด้านนี้เท่ากับศูนย์ จังหวะยังไม่ค่อยจะถูกเลย แต่ด้วยความที่รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ
หลายคนแนะนำว่าดี ส่งเสริมให้ลูกมีสมาธินะ ก็เลยจัดไป ตั้งแต่สามขวบเรียนดนตรีเด็กเล็กที่แม่ไปนั่งด้วย
ระหว่างเรียนซนมากถึงมากที่สุด ไม่ทำตามครูบอกเลย พอเริ่มยากขึ้นมั่มมี๊เลยต้องร้องเพลง ก็เลยต้องถอนตัว
เพื่อให้ลูกสุขกับการได้เรียนดนตรี ไม่ใช่ต้องทำเพราะครูจะทดสอบ และเราเปลี่ยนมาเปียโนเดี่ยวกับครูแว็ค
ตั้งแต่จุ้ยจุ้ยเกือบสี่ขวบ เรียนมาถึงตอนนี้


ช่วงแรกจุ้ยจุ้ยไม่ซ้อม แม่ไม่สนเพราะอยากให้ลูกรักดนตรีค่ะ พอเริ่มโต 5 ขวบเริ่มต้องซ้อมแล้วค่ะ จำเป็นเพราะ
เรียนแล้วไม่ซ้อมจำอะไรไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ เพลงจุดหักเหของจุ้ยจุ้ยคือ Puff the magic dragon เพลงที่ชอบ
เพลงที่ใช่ทำให้การซ้อมเป็นไปอย่างสบายๆ พอจุ้ยจุ้ยทำได้ดีก็เป็นจุดเริ่มต้นการซ้อม การมีวินัย และเป็นเพื่อน
สนิทกับเปียโนตั้งแต่นั้นมา


มั่มมี๊คอนเฟิร์มเลยว่าจุ้ยจุ้ยได้เรื่องสมาธิจากการอ่านหนังสือ และเล่นเปียโน เผื่อใครกำลังหาข้อมูลให้ลูกเรียนอยู่
แนะนำเลยค่ะว่าเรียนแล้วดีจริงๆ ไวโอลิน ขิม ก็น่าเรียนนะคะ แนะนำว่าถ้าคุณแม่ไม่มีพื้นฐานควรเข้าไปเรียน
กับลูกด้วยถ้าครูอนุญาต เพื่อจะมาดูลูกซ้อมที่บ้านได้

จุ้ยจุ้ยกับเพลงล่าสุด Fur Elise ที่ลูกเลือกเรียนเอง

http://www.youtube.com/embed/Z7M5OReGZ0o?wmode=opaque

วันนี้โรงเรียนเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้แสดงออก เป็น mini concert น่ารักๆ

มั่มมี๊ภูมิใจมากเลยนะลูก จุ้ยจุ้ยเดินออกไปเล่นอย่างมั่นใจ จะผิดพลาดบ้างเล็กๆ น้อยๆ เทียบไม่ได้กับ
เสียงชื่นชม และความภูมิใจในตัวเองที่จุ้ยจุ้ยได้รับในวันนั้น

https://youtube.com/watch?v=UN09bt2BOa4%3Fwmode%3Dopaque



เรื่องศิลปะ มั่มมี๊กับปะปี๊ชอบงานศิลปะแทบทุกแนว แต่จุ้ยจุ้ยยังไม่ฉายแววทางด้านนี้ซักเท่าไหร่ ดูเฉยๆ
จะออกแนวเด็กเนิร์ดมากกว่า ถึงกระนั้นมั่มมี๊ไม่ยอมแพ้ ก็ยังหากิจกรรมศิลปะมาให้เล่นเรื่อยๆ เพิ่งกลับไป
เรียนที่แกลอรี่มาได้ 2 สัปดาห์ มั่มมี๊เลยต้องปรับแผนวันเสาร์ที่จะเปิดร้านหนังสือออกไปก่อน เพื่อให้จุ้ยจุ้ย
ได้ settle กับที่เรียน ไปกับปะปี๊ได้สองคน



เรื่องความมั่นใจในตัวเอง เดี๋ยวนี้จุ้ยจุ้ยมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เป็นผู้นำเพื่อนๆ ได้ ชอบช่วยครูสอนเพื่อนๆ
ในห้อง มั่มมี๊เข้าใจว่าเมื่อลูกทำอะไรได้ดี มีคนชมเชย ความมั่นใจในตัวเองจะมากขึ้น ง่ายๆ เรื่องเรียนดนตรี
เพลงที่ลูกซ้อมจะยากขึ้นๆ พอกลับมาซ้อมแรกๆ ก็โวย ยากอย่างนั้นอย่างนี้ พอเล่นไปได้สามสี่รอบก็ง่ายขึ้น
เห็นอย่างนี้แล้วลูกก็มีกำลังใจซ้อม ถึงเวลาไปโรงเรียนคุณครูชมเชย ก็กล้าที่จะโชว์คอนเสิร์ท เสียงชมเชย
จากคอนเสิร์ทก็มาช่วยให้มีกำลังใจซ้อมมากขึ้น


ก่อนหน้านี้จุ้ยจุ้ยไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนไม่รู้จักเลย แม้แต่น้อย เป็นธรรมชาติของเค้ามาแบบนี้จริงๆ
หลังๆ มานี้จุ้ยจุ้ยดีขึ้นมาก วันก่อนอยากได้กล้องส่องทางไกลมาก พูดจนมั่มมี๊เบื่อเลยนะ ตกเย็นพาไปร้าน
ทุกอย่างหกสิบบาท ถึงร้านรีบเดินไปถามคนขาย “พี่ครับมีไบน็อคคิวล่าร์มั้ยครับ” พร้อมท่าทางส่องทางไกล
มั่มมี๊เห็นแล้วรู้สึกว่า อเมซิ่ง สุดๆ ปกติจะต้องให้แม่ไปถาม พอได้ของขอไปจ่ายเงินเองก่อนเลยไม่รอมั่มมี๊
เลือกซื้อแล้วจ่ายพร้อมกัน และมีหลายๆ เหตุการณ์ช่วงก่อนหกขวบนี้ที่จุ้ยจุ้ยกล้าที่จะพูดคุยกับคนแปลกหน้า
มากขึ้น แต่มั่มมี๊ก็ต้องสอนเรื่องคนแปลกหน้าดีไม่ดี อะไรที่เราพูดได้บ้าง อะไรที่เราไม่ควรพูด
มั่มมี๊ดีใจที่จุ้ยจุ้ยดูเป็นมิตรกับคนอื่นมากขึ้นเยอะมากๆ ก่อนหน้านี้บอกให้ไหว้ผู้ใหญ่ บอกไปเถอะ
ไม่ไหว้ซะอย่างเราก็เกรงว่าคนจะหาว่าพ่อแม่สอนมาไงน๊า แต่ก็ไม่เคยตำหนิลูกนะ แค่อธิบายให้ฟังว่า
ควรทำเพราะอะไรวันนึงลูกเข้าใจมากขึ้นก็เปลี่ยนไป รู้จักไหว้ผู้ใหญ่จากความเข้าใจว่าคือคำทักทาย
ผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือไม่ได้ถูกบังคับให้ไหว้โดยไม่สมัครใจ


เรื่องธรรมะ กับเด็กนี่ไม่ไกลตัวนะคะ ใกล้ตัวมากๆ เรียกว่าเป็นพื้นฐานที่ควรปลูกฝังมาก ถึงมากที่สุดในยุคนี้
เราคงไม่อยากให้ลูกเติบโตในโลกที่ขาดศีลธรรม แต่เราไม่สามารถสร้าง หรือกำหนดได้ การสอนให้ลูกรู้จัก
ธรรมะ ธรรมชาติ การมีอยู่แล้วดับไป ทำให้ลูกใช้ชีวิตในอนาคตได้อย่างมีความสุขอย่างแท้จริง มั่มมี๊กำลัง
พยายามสอนลูกเรื่องนี้มากๆ เลย ทุกวันนี้จุ้ยจุ้ยสวดมนต์ก่อนนอน สวดมนต์ชัดแจ๋วมาก บางวันนั่งสมาธิ
แต่ไม่ได้จริงจังอะไร แอบมีลืมตาบ่อยๆ มั่มมี๊ไม่ได้คาดหวังมากแค่ลูกนั่งนิ่งได้ห้านาทีมั่มมี๊ก็ว่าโอเคแล้วนะครับ

จุ้ยจุ้ยดูทีวีกับอาม่ามีผีก็มาเล่าแล้วก็กลัว มั่มมี๊ก็กลัวผีนะ แต่ต้องบอกว่าผีแบบในทีวีไม่มีหรอกลูก จุ้ยจุ้ยเคย
เห็นเหรอ มั่มมี๊ยังไม่เคยเห็นเลย อาม่าก็ไม่เคยเห็นจริงๆ จะมีได้ไง บางทีการดูทีวีก็ทำให้เราสอนอะไรลูก
ได้หลายอย่างเลยนะ


เรื่องวินัย จากที่มั่มมี๊ค่อนข้างเคร่งครัดในเรื่องวินัยมากขึ้น เพราะจุ้ยจุ้ยเริ่มโตและเข้าใจเหตุผลง่ายขึ้น การสอน
เรื่องระเบียบวินัยเริ่มง่ายมากขึ้น คำว่า Time out แทบจะหายไปเลย เปลี่ยนเป็นนั่งอบรม จุ้ยจุ้ยก็เข้าใจมั่มมี๊
ปะปี๊มากขึ้น เรื่องวินัยในตนเองจุ้ยจุ้ยถูกอบรมบ่อยสุด เดี๋ยวนี้ช่วยเหลือตัวเองได้หมด อาบน้ำ ใส่เสื้อผ้า กินข้าว
จากที่อาม่ารักช่วยป้อนข้าวหลานจนจะหกขวบ (มีแอบป้อนเพราะไม่ป้อนกินช้ามาก) มั่มมี๊ก็ต้องคอยบอกว่า
อาม่าแก่แล้วนะลูก ให้อาม่าช่วยเยอะๆ ไม่ได้ ต้องทำเอง และต้องช่วยเหลืออาม่าด้วย
เรื่องการบ้าน ไม่ต้องพูดถึงเลย กลัวไม่มีการบ้านส่ง โชคดีตรงที่การบ้านง่ายมาก ทำแป้บเดียวก็เสร็จ
ทำให้มีเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ ก่อนเข้านอน


เรื่องมารยาท และความมีน้ำใจ มั่มมี๊จะสอนจุ้ยจุ้ยเรื่องขอบคุณ ขอโทษเสมอๆ แม้แต่ไปร้านขายของชำ
พอลูกจ่ายเงินรับของมั่มมี๊ก็ให้ขอบคุณ ลูกจะเป็นที่รักและเอ็นดูของคนรอบข้าง แต่คำว่าขอโทษนี่สอนนานมาก
เพราะรู้ว่าตัวผิด โดนดุ แล้วจะไม่ขอโทษ พาลร้องไห้ ให้คนโอ๋ แต่มั่มมี๊ไม่ ปล่อยร้องจนพอใจ บางทีอาม่าบ่น
ว่าทำไมปล่อยร้องไห้เยอะจัง มั่มมี๊จะรอจนกว่าจุ้ยจุ้ยจะเลิกร้องไห้ จะพูดเบาๆ ให้ลูกเงียบก่อนค่อยคุย
คุยไปก็ร้องสลับอยู่อย่างนี้ จนกว่าลูกจะเข้าใจว่าทำไมต้องโดนดุ ทำไมต้องขอโทษ การเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก
สำคัญมาก ที่บ้าน มะมี๊ปะปี๊ก็ทำผิดได้ เวลาเราผิดก็ขอโทษลูกเสมอ หรือลูกทำอะไรดีให้ มีน้ำใจช่วยเหลือเรา
ก็จะขอบคุณ บางทีลืมจุ้ยจุ้ยทวงด้วยนะ “Mommy, you forgot to say something” พอบอกขอบคุณลูกจะบอก
“You’re welcome”

ความมีน้ำใจ จุ้ยจุ้ยล้นเหลือค่ะ ไม่ค่อยหวงของ ถ้าเล่นกับคนอื่นมีเด็กอยากได้ จุ้ยจุ้ยจะให้ไม่ว่าอะไรแม้เค้า
จะแย่งจากในมือ ยกเว้นลูกอยากเล่นชิ้นนั้นมากๆ ก็จะไม่ให้ มีสู้กันซักพักนึง สิ่งนึงเลยที่ลูกไม่เป็นคือการแย่ง
ของเล่นจากคนอื่น แต่แย่งพ่อแม่นะ 555 เวลาเห็นพ่อแม่ตากผ้า ล้างจาน จะรีบมาช่วย เรียกให้ไปหยิบของก็จะไป
หยิบให้แต่มีบ่อยที่จะมีคำว่าเดี๋ยวแป้บนึง คำนี้มั่มมี๊ก็ใช้บ่อยมากตอนเด็กๆ 🙂

จุ้ยจุ้ยรู้จักเห็นใจคนอื่น จุ้ยจุ้ยเห็นคุณลุงสีไวโอลินเปิดหมวก มั่มมี๊ให้เงินคุณลุง จุ้ยจุ้ยบอกสัปดาห์หน้ามาอีกนะ
จะเอาเงินในกระปุกมาใส่ให้คุณลุง    

                                             

กิจกรรมยามว่าง จุ้ยจุ้ยชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ หนังสือที่บ้านเยอะมากจนเปิดร้านขายได้ มั่มมี๊ชอบ
พวกหนังสือเด็ก อ่านแล้วน่ารักดี จุ้ยจุ้ยก็เลยได้รับการปลูกฝังให้รักการอ่านตั้งแต่เด็กๆ กิจกรรมยามว่างอื่นๆ
ที่ลูกชอบก็มีอีกหลายอย่าง


ดูทีวี จุ้ยจุ้ยดูทุกวันเลย หลังจากกลับจากโรงเรียน มั่มมี๊ว่าก็เป็นการเสริมทักษะภาษาให้ลูกนะ จุ้ยจุ้ยเก่งพูด
ภาษาไทยเก่งมากขึ้นเยอะเลย ตั้งแต่ดูช่องไทยพีบีเอส เลือกช่องนี้เองด้วยนะ แล้วมาเล่าให้ฟังว่าดูไทยประลอง
ประเทศไทยเนี้ยะเก่งมากอย่างนั้นอย่างนี้ หลังๆ เริ่มตื่นเช้าวันหยุด ลงไปดู Curious George กับการ์ตูนอื่นๆ
ส่วนตัวคิดว่าการดูทีวีในเด็กเล็กต้องดูแลเป็นพิเศษเลือกโปรแกรมที่เหมาะสม ถ้าเป็นไปได้ควรดูกับลูกด้วย
พอโตขึ้นมาหน่อยก็เริ่มจะดูคนเดียวได้แล้ว แต่ต้องจำกัดเวลา ไม่ให้บดบังกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ


ผลการวิจัยสมาธิสั้น สมาธิยาว เดี๋ยวก็ว่าสั้น บางสำนักก็บอกว่าดูทีวีแล้วดี ที่บ้านสายกลางดีกว่าค่ะ ใช้ผลการ
วิจัยเป็นเครื่องเตือนให้ระมัดระวัง แต่ไม่ได้เป็นบรรทัดฐาน


เล่นไอแพด แหม! จะพลาดได้ไง ยุคแทปเล็ตเนี้ยะ แต่ที่บ้านมีกฏเหล็กว่าเล่นได้เฉพาะเสาร์อาทิตย์และจำกัดเวลา
เราจะให้เล่นเฉพาะตอนลูกร้องขอ ไม่เซ็ตเวลาแน่นอนหรอกค่ะ บางทีเค้าไม่ได้นึกถึงก็ไม่ได้เล่น
เด็กๆ กับเทคโนโลยีนี่คู่กันจริงๆ เล่นแป้บๆ เป็นหมด เล่นทุกเกมส์ แต่มั่มมี๊เลือกก่อนนะ บางเกมดูไม่เหมาะก็
ไม่ให้เล่น App ที่คิดว่าคุ้มมากที่สุดที่จ่ายเงินซื้อมาคือ Monopoly และ PianoNote Pro เล่นได้นาน มั่มมี๊เองก็
ชอบเล่น ส่วน App ที่คิดว่าน่าจะฟรีนะที่ชอบจะมี Snoopy, Frisbee จุ้ยจุ้ยเล่นบ่อยเล่นจนชำนาญเลย
แต่สำคัญมาก เด็กๆ ติดไอแพดน่ากลัวกว่าติดทีวีมากๆ ค่ะ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ เจอหลายเคสแล้ว
ที่ต้องเก็บขึ้นเลยไม่ให้ลูกเล่น ฉะนั้นการกำหนดเวลาตั้งแต่ต้นสำคัญมาก

พับกระดาษ มั่มมี๊ซื้อหนังสือพับออริงามิมาหลายเล่ม จุ้ยจุ้ยเรียนรู้การพับเล็กๆ น้อยๆ แต่ที่ชอบพับมากที่สุดคือ
เครื่องบิน แล้วมาแข่งว่าใครไกลกว่ากัน


ขี่จักรยาน นี่ก็เซอร์ไพรส์มั่มมี๊นะ ไม่รู้ว่าขี่สองล้อได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ล้อพยุงเบี้ยวไปนานแล้ว พอปะปี๊ถอดออก็
ขี่ได้เลย 555 คราวนี้มันส์เค้าเลยหล่ะ


เล่นของเล่น วัยนี้ยังเล่นของเล่นอยู่นะคะ ต่อเลโก้ เล่นขายอาหาร ปั้นแป้งโดว์ อูโน่ ยังเป็นของเล่นที่จุ้ยจุ้ยชื่นชอบ
แต่จุ้ยจุ้ยไม่ฮิตเบ็นเท็น ไพ่ยูกิ แฮะ มีมาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนเล่น แต่จุ้ยจุ้ยไม่ได้อยากได้นะ มั่มมี๊เลยว่าจะขอไพ่ยูกิ
อาเฮียมาซักเด็คนึงไว้เผื่อเล่นกับเพื่อนกุบกิบ ไม่ซื้อเองเพราะหลานมีเยอะมากๆ ว่าจะต้มกินให้อยู่


เล่นดนตรี ร้องเพลง จุ้ยจุ้ยชอบร้องเพลง และเต้น เพลงพี่เบิร์ด พี่บี้นี่ชอบสุดๆ คิดว่าคงคล้ายๆ กับเด็กๆ หลาย
คน ที่ชอบศิลปินสองคนนี้


ทำงานศิลปะ กิจกรรมนี้แม่ต้องเริ่ม ลูกไม่ค่อยสนหรอก มั่มมี๊ชอบเก็บใบไม้ดอกไม้หน้าบ้านมาทำงานศิลปะ


เล่ามายาวมาก น่าจะเป็น Blog ที่มั่มมี๊ตั้งใจเขียนยาวสุดเลยมั้ง

มั่มมี๊อยากบอกจุ้ยจุ้ยว่า มั่มมี๊ภูมิใจในตัวจุ้ยจุ้ยมากนะลูก จุ้ยจุ้ยไม่ได้เป็นเด็กมีพรสวรรค์มาแต่กำเนิด แต่เป็น
เด็กมีพรแสวงในเรื่องที่สนใจ รวมไปถึงมีวินัยพอสมควรตามวัย (มากกว่าวัยในบางเรื่อง)

อยู่ด้วยกันมาจะเจ็ดปีนี้ มั่มมี๊เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากลูก ที่สำคัญเรียนรู้ที่จะรัก และยอมรับในตัวตนของลูก
แม้บางครั้งมั่มมี๊จะดุบ้าง Time out บ้าง แต่ลูกไม่เคยที่จะไม่เข้าหามั่มมี๊เลย ทุกครั้งที่ถูกดุ จะเข้ามากอด
ขอโทษทุกครั้ง ในบางครั้งมั่มมี๊เป็นคนผิดก็เข้าไปขอโทษลูกเอง จุ้ยจุ้ยไม่เคยโกรธมั่มมี๊ หรืองอนมั่มมี๊นานๆ
กลัวท่าเยอะแล้วมั่มมี๊จะเมิน ใครไม่เคยเห็นจุ้ยจุ้ยแผลงฤทธิ์จะไม่รู้เลยว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน 😛
หรือบางทีมั่มมี๊อารมณ์บูดบึ้งจุ้ยจุ้ยจะมาแล้ว เล่นเพลงให้ฟังบ้าง มาหอมแม่บ้าง รักแม่บ้าง

ก็อย่างนี้แหละเรียกว่ารสชาติของชีวิต ดราม่าบ้าง อะไรบ้าง

อีกไม่ถึงสองชั่วโมงก็จะหกขวบแล้ว มั่มมี๊ขอให้จุ้ยจุ้ยเป็นเด็กดีของทุกๆ คน มีความสุขในทุกๆ วัน

รู้จักดับทุกข์ของตัวเองมั่มมี๊จะคอยสนับสนุนอยู่ข้างๆ เหมือนเคยนะครับ

รักนะ…แสดงออกทุกวัน จุ๊บุ จุ๊บุ

มั่มมี๊เอง
13/3/2012
10:15 น.